นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ และมอบประกาศเกียรติคุณและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทำคุณประโยชน์แก่กรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธี ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า)
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศที่พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่ผู้กระทำความดีความชอบอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ศาสนา และประชาชน และขอชื่นชมกับผู้ที่ได้รับประกาศเกียรติคุณ และเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ในครั้งนี้ คุณงามความดีที่ท่านทั้งหลายได้ทำคุณประโยชน์จนได้รับการยกย่องสรรเสริญเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าแห่งความภาคภูมิใจแก่ตนเอง ครอบครัว และวงศ์ตระกูล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ได้ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร 9 ด้าน 9 ดี คือ หลักการบริหารจัดการดี โดยส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างสรรค์งาน พัฒนาคุณภาพชีวิต และแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อทำให้มหานครแห่งนี้ เป็นมหานครที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การที่ทุกท่านได้มีส่วนร่วมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันการปฏิบัติงาน หรือกิจกรรมต่าง "ของกรุงเทพมหานครให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้น ผมถือว่าทุกท่านได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนากรุงเทพมหานครของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น จึงขอให้ทุกท่านธำรงรักษาคุณความดีที่ได้สร้างสรรค์ไว้นี้ให้คงอยู่ต่อไป
เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากรุงเทพมหานคร 14 ธันวาคม ซึ่งในปีนี้มีผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกรุงเทพมหานครที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 7 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นตรา จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 3 ราย ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นตรา เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 4 ราย และผู้ได้รับประกาศเกียรติคุณและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติจากท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2565 จำนวน 51 ราย