xs
xsm
sm
md
lg

สนพ.คาดปีหน้าความต้องการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้น 2.7%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่าปี 2566 คาดการณ์แนวโน้มความต้องการใช้พลังงานขั้นต้นของประเทศจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เนื่องจากการเดินทางที่มีแนวโน้มกลับมาเป็นปกติ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งการขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ โดยคาดว่าการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 และการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและภาคการส่งออก สถานการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและอนุญาตให้มีการเดินทางระหว่างประเทศของประเทศจีน ซึ่งกระทรวงพลังงานจะติดตามและบริหารนโยบายพลังงานในช่วงวิกฤตราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตพลังงานต่อไป

ทั้งนี้ สนพ. ประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกยังคงผันผวน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้ปีหน้าคนไทยยังคงต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราที่แพงเช่นเดิม แต่คงจ่ายในอัตราที่ไม่สูงเกินกว่า 5 บาท/หน่วย ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คงจะเคาะ 3 แนวทางการปรับขึ้นชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยยังมีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ

นอกจากนี้ สนพ.เตรียมเสนอแผนพลังงานชาติ (NEP) ให้กระทรวงพลังงาน รับทราบภายในเดือนธันวาคม 2565และเปิดรับฟังความคิดเห็นในช่วงเดือนมกราคม 2566 หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา คาดว่าจะประกาศใช้แผนอย่างเป็นทางการช่วงไตรมาส 2/2566 โดยเบื้องต้นจะประกอบด้วยแผนพัฒนากำลังการผลิตพลังงาน(PDP 2022) ที่จะกำหนดสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 50 ก๊าซธรรมชาติร้อยละ 40 ถ่านหินร้อยละ 10 ที่เหลือจะเปิดโอกาสให้พลังงานไฮโดรเจนและนิวเคลียร์ เป็นต้น