นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ปฏิบัติการ ล้มกระดาน ตม.
ขบวนการ “จีนเทา” ขยายเวลาอยู่ต่อในประเทศ ด้วยวิธีพิสดารล้ำเหลือ
วีซ่าท่องเที่ยวอยู่ได้ 30 วัน
แต่หากอยากอยู่ต่อ ก็แปลงประเภทวีซ่าเป็น นักธุรกิจ เรียนภาษา ใจบุญสุนทานเป็นอาสาสมัคร แค่ซื้ออาหารกระป๋อง เครื่องเขียน ทำท่าไปแจกของ ถ่ายรูป
ผ่านมูลนิธิชื่อย่อ “ป” ตั้งสาขากระจายทั่วภาค 4 ของ ตม. หรือภาคอีสานนั่นเอง
เฉพาะปี 63-64 ระยะเวลา 2 ปี มีอาสาสมัครจีน ร่วม 7,000 คน ได้วีซ่าประเภท Non-O หรือ Working for NGO ทำงานเป็นอาสาสมัคร ในมูลนิธิ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร
แต่ให้ไปดูสถานที่ตั้งมูลนิธิ สภาพทรุดโทรมในหมู่บ้านเล็กๆ ที่จังหวัดขอนแก่น
แค่ 10 คน ก็เต็มไม่เหลือพื้นที่แล้ว แต่นี่รับไป ร่วม 7,000 คนได้อย่างไร?
หากคนหนึ่งจ่าย 100,000 บาท รวม 7,000 คน ก็ 700 ล้านแล้วเจ้าประคุณเอ๋ย
ช่างหากินอะไรได้ง่ายอย่างนี้ ความ “หิวเงิน” มันทำได้ทุกอย่าง ตัวไม่ต้องมาปรากฎให้ ตม. เห็น แต่ปั๊มวีซ่ามือเป็นระวิง
จัดสรรปันส่วนกันทั่วถึงใจพระเดชพระคุณ
ขอย้ำ ข้อมูล ปี 63-64 แต่พอปี 65 ลดเหลือไม่กี่คน เพราะเปลี่ยนนาย?
ตม. คือแหล่งผลประโยชน์ที่ทำให้จีนเทาทำธุรกิจนอกกฎหมายเข้ามา
จริงอยู่มีคนดีด้วย แต่วิธีการที่ผิดเช่นนี้เราแยกแยะไม่ได้
วันนี้หากไม่จัดการ “ล้มกระดาน ตม.” ทลายผลประโยชน์มหาศาลที่นำเอาคนเลวมีเงิน แทนที่จะเอาคนดีมีเงินเข้าประเทศ
จะสร้างความฉิบหายให้ประเทศไทย ด้วยน้ำมือของคนไทยด้วยกันเอง