เพจพรรคเพื่อไทย โพสต์ระบุว่า “ตู้ห่าว บริจาคเงินให้พรรคการเมืองในปี 2564 จำนวน 3 ล้านบาท ถือว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 72 และ มาตรา 92 ใช่หรือไม่” ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีธุรกิจทุนจีนสีเทาของ ‘ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์’ หรือ ‘หาว เจ๋อ ตู้’ ที่อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า คนจีนที่เปิดบริษัทฟอกเงิน สร้างเครือข่ายด้วยธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะยาเสพติด การพนัน ผับบาร์ จะเติบโตจนมีธุรกิจมหาศาลในสังคมไทย จะต้องอาศัยปัจจัยสำคัญคือ อำนาจรัฐ เป็นเกราะป้องกันการถูกจับกุมใช่หรือไม่
การเติบโตของธุรกิจทุนจีนสีเทา คือความไม่เอาจริงเอาจังจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานรวมถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปล่อยปละละเลยมาตลอด แต่เหตุใดเพิ่งจะมาหวังสร้างผลงานเอาในปีนี้ เหตุใดจึงไม่ทำเรื่องที่ประชาชนสงสัยและตั้งคำถามให้กระจ่างชัดเจน ทั้งเรื่องการอนุมัติวีซ่าซึ่งเป็นด่านแรกที่เข้าราชอาณาจักรไทย ก็ควรเข้มงวดป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่มาตามไล่จับเมื่อตอนกระทำผิด
ขณะนี้ตำรวจได้อายัดทรัพย์สินของตู้ห่าว ด้วยเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่มาจากกระทำผิดกฎหมาย จึงมีคำถามอยากฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองของ ตู้ห่าว ในปี 2564 จำนวน 3 ล้านบาท ถือว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา72 และ มาตรา92 ใช่หรือไม่ อาจทำให้ถึงขั้นยุบพรรคได้ อย่าเมินเฉยละเลยข้อสงสัยของสังคม เพื่อป้องกันและสร้างมาตรฐานการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองในอนาคต
“พลเอกประยุทธ์ ต้องไม่ลืมว่าตนเองถูกเสนอชื่อเป็นแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองดังกล่าว นอกจากท่านจะไม่เหลือความสง่างามใดๆ ในการบริหารประเทศแล้ว ยังล้มเหลวในการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ทำให้ประเทศไทยตกต่ำลง จึงควรพิจารณาตัวเองยุบสภาเป็นของขวัญให้ประชาชนโดยเร็ว” รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว