นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า“ตม.” (ตรวจคนเข้าเมือง) ต้นเหตุจีนเทาทะลัก
หน่วยงาน ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) คือแหล่งที่ต้อง “ยกเครื่อง” เป็นรายถัดไป
ไม่งั้นแทนที่จะได้ “จีนดี” เข้าไทย กลับไปได้ “จีนเลว” เข้ามาทะลักเต็มประเทศ
อย่างที่ผมบอก ต้องแบ่งแยกจีนเทาเหล่านี้ ออกจากจีนดีๆ ที่เข้ามา
บ่อเกิดของจีนเทาที่เข้ามาในประเทศไทยแบ่งได้ ดังนี้
ช่องทางที่ 1 วีซ่าท่องเที่ยว TR ยื่นที่สถานฑูตไทยในประเทศจีน ได้รับอนุญาตให้อยู่ได้ 30 วัน
ช่องทางที่ 2 Visa on Arrival ขอวีซ่าเมื่อมาถึงสนามบิน
วีซ่านี้ตามภาษาไทยๆ ต้องมีติดปลายนวม จ่ายให้กับเอเย่นต์ที่รับทำที่สนามบิน
ช่วงก่อนยุคโควิด จีนเข้ามาวันนึงเป็นพันเป็นหมื่น แค่ 500 บาทต่อคน ก็ได้วันละ 5 แสน - 5 ล้านแล้ว
ส่วนนี้จะไปแบ่งกับใครผมทราบดี แต่ยังไม่ขอพูดในขณะนี้
ประเภทที่ 3 Non-B Visa (Business Visa)
ประเภทที่ 4 Retirement Visa หรือวีซ่าเกษียณอายุ
แต่ที่น่าผิดสังเกตุมาก คือ “จีนเทา” นิยมทำตัวเป็น “นักเรียนโข่ง” อายุ 50 ปียังมาเรียน แต่โดดเรียนทุกวัน ไม่เคยเรียนจริง ได้แก่
ประเภทที่ 5 วีซ่านักเรียน ED Visa เงื่อนไข
- หาโรงเรียนที่รับนักศึกษาต่างชาติ
- สมัครตามหลักเกณฑ์ มีใบเสร็จค่าเทอม
- เมื่อได้เอกสารจากโรงเรียนก็ไปยื่นขอวีซ่า
ตอนนี้เป็นวีซ่าประเภทยอดฮิตของจีนเทา
เมื่อวานแถลงข่าวไปบอกว่า จีนเทา “ซื้อโรงเรียนสอนภาษา“ เสียเลยหมดเรื่อง ครบวงจรเป็น “one stop service”
ใช้โรงเรียนตึกแถวสอนภาษา อย่างมากพื้นที่รองรับได้แค่ 20-30 คน
แต่ดันออกวีซ่านักเรียนให้กับพวกจีนเทาได้เป็นร้อยเป็นพันคน
หนักๆ เข้าระยะหลังไม่ต้องมาเรียนจริง เพราะไม่เคยเช็คชื่อ แค่เอาเอกสารไปใช้ยื่นขอวีซ่าก็พอ แถมอ้างว่าเรียนออนไลน์เข้าไปอีก
ส่วนประเภทสุดท้าย
เพียงแค่ท่านมี “บัตรอีเดียด” คือ “บัตรอีลิท” (Elite Card)
ใครมีเงินยิ่งมาก ยิ่งอยู่ได้นาน ใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่ไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติอย่างอื่น จึงเข้าทาง “จีนเทา” เพราะเอาเงินฟาดหัวก็เรียบร้อยโรงเรียนจีน
จ่าย 1 ล้านอยู่ได้ 5 ปี ยิ่งจ่ายมาก ยิ่งอยู่นานได้ถึง 20 ปี
ออกจากเครื่องบินมีผู้ช่วยส่วนตัว
ใช้ช่องทางพิเศษ Fast Track
อาจจะนั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวมา เจ้าหน้าที่ ตม. ไม่ต้องเห็นหน้า ไม่รู้ใครเป็นใคร เพราะจัดเป็นวีไอพี มีรถหรูไปรับถึงประตูเครื่องบิน
ออกจากสนามบินก็มีมอเตอร์ไซค์นำขบวน อย่างนี้ “อภิสิทธิ์ชน” จริงๆ
แถมด้วยสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน
สมัครบัตรนี้ใบเดียว สบายไปตลอดชาติ ขอให้มีเงินเท่านั้น
เรียกบัตรนี้อีกอย่างว่า “บัตรหน้าเงิน” หลักการดี อยากให้คนมีเงินเข้าประเทศ แต่ไม่มีการคัดกรองตรวจสอบอะไร ดูแต่ “เงิน” เป็นหลักเท่านั้น
แทนที่จะคัดกรอง “คนดีมีเงิน” เข้ามา กลับปล่อยให้ “คนเลวมีเงิน” เข้ามาทำร้ายตั้งแก๊งอาละวาดในประเทศไทย
งานนี้จึงต้องล็อคเป้าที่ ตม.
หลังจากเปิดเผย “ป.ป.ส.” นำเงินนอกงบประมาณหลอกฝรั่งเอาเงินไปถลุงตั้ง “วิทยาลัยป้องกันยาเสพติด” ใจกลางป่าสงวน แต่ไม่มีคนไปเรียนสักคน เพราะตั้งอยู่ไกลถึงชายแดนสามเหลี่ยมทองคำโน่น
หากอยากรู้เพิ่มล้อมวงเข้ามา
ชูวิทย์จะเล่าให้ฟัง