xs
xsm
sm
md
lg

วงการบันเทิงอาลัย! "ลินดา ค้าธัญเจริญ"จากไปอย่างสงบ หลังล้มป่วยมานาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วงการบันเทิงสูญเสียอีกครั้ง เมื่อ "ตุ๊ก - เดือนเต็ม สาลิตุล" ดารารุ่นใหญ่แจ้งข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวและอินสตาแกรมถึงการเสียชึวิตของเพื่อนรัก "ลินดา ค้าธัญเจริญ" โดยระบุข้อความว่า

"อาลัยรัก ลินดา ค้าธัญเจริญ 27 พฤศจิกายน 2565 ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา ต่างเดินทางผ่านช่วงเวลาที่สวยงาม ช่วงเวลาที่ทุกข์ร้อน ผ่านร้อนผ่านหนาว จนถึงก้าวสุดท้ายของชีวิต

ลินดาเพื่อนรักได้เดินทางผ่านทุกสิ่งดังกล่าวมาแล้วอย่างสวยสง่างาม ในวันที่ลินดามีชื่อเสียงเป็นดาราอันดับหนึ่งของประเทศ ลินดาสวยเก๋ที่สุดเป็นที่รักของทุกคน จนถึงวันนี้ลินดาก็ยังสวยที่สุด ใบหน้าอิ่มสวยไม่มีเปลี่ยนแปลง

ก้าวสุดท้ายในโลกมนุษย์ของดาจบลงแล้ว ขอให้ก้าวใหม่ของดาเดินทางสู่ภพภูมิที่สวยงาม ในโลกใบใหม่ที่พวกเราต่างต้องเดินทางไปถึงด้วยกันทุกคน

ขอบคุณดาเพื่อนรัก และขอบคุณสรวงสวรรค์ ที่อนุญาตให้ตุ๊กได้ทำหน้าที่เพื่อนที่ดี เป็นกัลยาณมิตรต่อกันตลอดระยะเวลา 18 ปีเต็ม จนวันสุดท้ายของชีวิต รักและระลึกถึงลินดาเพื่อนรักเสมอ #restinpeace #ลินดาค้าธัญเจริญ #หลับให้สบาย #ในสัมปรายภพ #จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป"

ลินดา ค้าธัญเจริญ ชื่อเล่น ดา เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2499 เป็นนักแสดง นางแบบชาวไทย มีผลงานสร้างชื่อจาก ภาพยนตร์ เรื่อง "แก้ว" ของ เปี๊ยก โปสเตอร์ แสดงร่วมกับ ทูน หิรัญทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ. 2523 และ "ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด" จากบทประพันธ์ของ "โบตั๋น" กำกับโดย วิจิตร คุณาวุฒิ เมื่อ พ.ศ. 2528 และมีผลงานด้านการละครและเดินแบบมาต่อเนื่อง

ผลงานส่วนใหญ่เป็นงานด้านละคร เธอเคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองทีวีมหาชน นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดนิยม ปี พ.ศ. 2525 จากละคร "สงครามพิศวาส" ทางช่อง 3 ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ บ้านเมือง โดยได้รับรางวัลคู่กันกับรัชนู บุญชูดวง จากละคร "พรหมไม่ได้ลิขิต" ทางช่อง 9 จากการโหวตให้คะแนนโดยผู้อ่านหนังสือพิมพ์ บ้านเมือง ทั่วประเทศ

ระหว่างนั้นเธอได้พบรักและสมรสกับนักธุรกิจด้านเพชรพลอย จึงหันไปร่วมหุ้นกับสามีทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับจิวเวลรี่ และด้านซาลอน ทำให้หายไปจากวงการบันเทิง แต่สุดท้ายชีวิตคู่ก็ล้มเหลว ต้องแยกทางกัน จนในปี 2547 เกิดประสบอุบัติเหตุหกล้มในห้องน้ำ เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ มานานหลายปี พออาการจะเริ่มดีขึ้นบ้าง กลับเป็นมะเร็งที่บริเวณโคนลิ้นอีก (ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย)