วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข ครบรอบ 80 ปี ว่า "ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การแพทย์และสาธารณสุขของไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะความสำเร็จในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนปัจจุบันได้กลายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการจัดอันดับว่ามีความมั่นคงทางสาธารณสุขเป็นลำดับที่ 5 ของโลก สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราชะล่าใจ แต่เป็นการตอกย้ำให้มั่นใจว่าเราสามารถเป็นผู้นำของโลกในด้านการสาธารณสุข และเป้าหมายของการเป็น Health Hub หรือศูนย์กลางทางสุขภาพของโลกกำลังจะเป็นความจริง ล่าสุด ไทยได้ร่วมลงนามในสัตยาบันเป็นภาคีกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ และลงนามบันทึกความร่วมมือทางสาธารณสุขกับสาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้
วิกฤตโควิด-19 ทำให้เรามีพัฒนาการทางด้านการสาธารณสุขอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน การสาธารณสุขเชิงรุก นวัตกรรม การใช้เทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมงานด้านสาธารณสุข ได้รับความร่วมมือจากประชาคมโลก รวมถึงการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านอย่างสมุนไพรไทยมาต่อยอดเพื่อรักษาโรคและสร้างเสริมสุขภาพ"
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนจะได้เห็นในช่วง 1 ปีต่อจากนี้ คือการทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากที่สุด ไร้รอยต่อ เพิ่มความครอบคลุมการดูแลสุขภาพปฐมภูมิที่บ้านและชุมชน ด้วยทีมสามหมอ และการแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine หรือโทรเวช คืนข้อมูลสุขภาพให้ประชาชนในการจัดการบิ๊กดาต้า การดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบ พร้อมสำหรับสังคมผู้สูงวัย และการนำสุขภาพมาส่งเสริมเศรษฐกิจในทุกมิติ
การดำเนินการต่างๆ ที่กล่าวมา จะประสบความสำเร็จได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทุกคนที่มุ่งหวังให้คนไทยมีสุขภาพดี เศรษฐกิจของประเทศมั่งคั่ง อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า "ในนามของกระทรวงสาธารณสุข ผมขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จงได้โปรดคุ้มครองให้ประชาชนชาวไทยมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่แข็งแรง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราต่อไป"