น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภารกิจในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของไทยผ่านพ้นไปด้วยดี โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมตามธีมหลักของการประชุมคือ "Open. Connect. Balance." โดยจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการผลักดันเขตการค้าเสรี ที่ลดการกีดกันทางการค้า เพิ่มโอกาสในการจำหน่ายสินค้าของไทยให้เพิ่มมากขึ้น และฟื้นฟูการเดินทางข้ามแดนระหว่างกันอย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ
เพื่อสร้างความพร้อมรับมือวิกฤตใหม่ในอนาคต และการสร้างสมดุลกับสิ่งแวดล้อมด้วยการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่จะสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยในปัจจุบันที่มีธุรกิจสตาร์ตอัพ และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีเติบโตเป็นจำนวนมาก น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในการประชุมเอเปค สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค (ABAC) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ได้เสนอตั้งกองทุน เพื่อให้หลายหน่วยงานในเอเปคนำไปปล่อยกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ เอสเอ็มอีให้มีทุนดอกเบี้ยต่ำ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจ สอดรับกับเป้าหมายกรุงเทพฯด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG อีกทั้งการเจรจาการค้าและการลงทุนกับหลายประเทศในกลุ่มเอเปค ก็เป็นการต่อยอดการสนับสนุนให้สตาร์ตอัป (StartUp) และเอสเอ็มอี (SMEs) ไทยเติบโตในระดับโลก
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาวิจารณ์การจัดการประชุมเอเปค โดยไม่มั่นใจผลประชุมจะสามารถดึงการลงทุนแสนล้านจริงหรือไม่ โดยกล่าวหาว่าเพราะบรรยากาศการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนายทักษิณ ที่ชื่นชมการจัดการประชุมของรัฐบาลว่าอยู่ในระดับใช้ได้ นั่นหมายความว่า นายทักษิณพอใจ และรัฐบาลสอบผ่าน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุมเอเปคอาจมีผลต่อกลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ที่จะทำให้การประชุมไม่ราบรื่น แต่ไม่กระทบต่อการลงทุนที่เจรจาในเอเปค ดังนั้น นายทักษิณ ไม่ควรด้อยค่าประชุมเอเปค และนำม็อบมาโหนกระแสทั้งที่ตนเองไม่ได้อินกับการชุมนุมแต่กลับนำมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตนเองอย่างหน้าไม่อาย
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า อยากขอให้ทุกคนช่วยกันทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เสนอแนวคิดอย่างตรงไปตรงมาแบบสร้างสรรค์ ไม่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงในอนาคต ไม่สร้างข่าวทำลายชาติบ้านเมือง เพราะประเทศไทยเรากำลังฟื้นฟูเศรษฐกิจและกำลังไปได้ดี ทุกมิติกำลังจะดีขึ้นและเป็นอนาคตของเราทุกคน"