น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ... ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อความรอบคอบและให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ จึงขอนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวกลับมาทบทวนและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะในประเด็นตามหนังสือคัดค้านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจที่สังกัดสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ จำนวน 35 แห่ง และหัวหน้าศูนย์ประสานงานสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ประจำจังหวัด จำนวน 53 จังหวัด ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ เพื่อคำนึงถึงผลกระทบของลูกจ้างตามหนังสือคัดค้าน สภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจากวิกฤติโควิด-19 จึงเห็นชอบที่จะทบทวนบทบัญญัติต่างๆ ในร่างพระราชบัญญัตินี้ เพราะโดยที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ครม.มีมติเห็นชอบไปตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563
ต่อมาอีก 2 ปี คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องเร่งด่วนให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา และต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ลูกจ้างโดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 35 แห่ง และศูนย์ประสานงานสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ประจำจังหวัด 53 จังหวัด ทำการคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินี้ โดยอ้างว่ามีหลักการที่ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างมากกว่ากฎหมายฉบับปัจจุบัน ขัดต่อหลักการตามรัฐธรรมนูญและหลักการสากล
น.ส.ทิพานัน ยืนยันว่า รัฐบาลเปิดกว้างและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกฎหมาย ดังนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของลูกจ้าง จึงจะนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวกลับมาทบทวนและหารืออีกครั้ง
ทั้งนี้ เพื่อคำนึงถึงผลกระทบของลูกจ้างตามหนังสือคัดค้าน สภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจากวิกฤติโควิด-19 จึงเห็นชอบที่จะทบทวนบทบัญญัติต่างๆ ในร่างพระราชบัญญัตินี้ เพราะโดยที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ครม.มีมติเห็นชอบไปตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2563
ต่อมาอีก 2 ปี คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องเร่งด่วนให้เสนอร่างพระราชบัญญัติต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา และต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ลูกจ้างโดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 35 แห่ง และศูนย์ประสานงานสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ประจำจังหวัด 53 จังหวัด ทำการคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินี้ โดยอ้างว่ามีหลักการที่ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างมากกว่ากฎหมายฉบับปัจจุบัน ขัดต่อหลักการตามรัฐธรรมนูญและหลักการสากล
น.ส.ทิพานัน ยืนยันว่า รัฐบาลเปิดกว้างและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกฎหมาย ดังนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของลูกจ้าง จึงจะนำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวกลับมาทบทวนและหารืออีกครั้ง