ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้า (21-25 พ.ย.) ที่ 35.30-36.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ระดับ 35.73 บาทต่อดอลลาร์ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบสามเดือนครั้งใหม่ ที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ ในระหว่างสัปดาห์
ช่วงต้นสัปดาห์เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามทิศทางค่าเงินหยวน และภาพรวมของสกุลเงินเอเชีย ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะชะลอขนาดการขึ้นดอกเบี้ย หลังมีสัญญาณว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มชะลอลง อย่างไรก็ตาม เงินบาทลดช่วงบวกลงในช่วงต่อมา สวนทางเงินดอลลาร์ที่มีแรงหนุนกลับช่วงสั้นๆ จากตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนตุลาคม ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งยังคงมองว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าอาจมีผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ตาม
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์ยังสอดคล้องกับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน กระนั้นก็ดี เงินบาทฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 ของไทยในวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน ซึ่งน่าจะเติบโตสูงกว่าในไตรมาส 2 ของปี 2565 ที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยสำคัญในประเทศที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 และข้อมูลการส่งออกเดือนตุลาคม ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่เดือนตุลาคม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้และธนาคารกลางนิวซีแลนด์ การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน ตลอดจนดัชนี PMI เดือนพฤศจิกายน ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน