ตุรกีเปิดปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในซีเรีย-อิรัก ตอบโต้เหตุระเบิดในอิสตันบูล

กองทัพตุรกีเปิดปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ทางเหนือของซีเรีย และอิรัก เพื่อตอบโต้กรณีที่มีกลุ่มก่อการร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดที่อิสตันบูล เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 80 คน ซึ่งพบว่าผู้ที่เป็นผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดเป็นหญิงชาวซีเรียที่ลักลอบเดินทางเข้าประเทศมาเพื่อก่อเหตุ เธอถูกจับกุมตัวในขณะที่พยายามหลบหนีออกไปโดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติหลายคน

กระทรวงกลาโหมตุรกีประกาศเริ่มปฏิบัติการด้วยการทวีตข้อความในวันนี้ (20 พ.ย.) ว่า "เวลาแห่งการพิจารณามาถึงแล้ว" พร้อมภาพถ่ายของเครื่องบินทหารที่กำลังขึ้นบินปฏิบัติการในเวลากลางคืน และระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ก่อเหตุโดยทุจริตจะต้องรับผิดชอบ โดยหลังจากที่เกิดเหตุระเบิด ตุรกีกล่าวโทษว่าผู้ก่อเหตุคือพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน หรือพีเคเค ที่ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย และกลุ่มชาวเคิร์ดในซีเรีย

ด้านกลุ่มกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ เอสดีเอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบชาวเคิร์ด ยืนยันว่าไม่มีส่วนร่วมในเหตุระเบิดที่อิสตันบูล ขณะเดียวกัน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนจากการที่ตุรกีโจมตีเป้าหมายในเมืองโคบานีของซีเรีย และหมู่บ้าน 2 แห่ง ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของผู้พลัดถิ่นจากสงครามในซีเรีย โดยระบุว่า โคบานีที่เอาชนะกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ถูกกองทัพตุรกีโจมตีเมื่อช่วงเช้านี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ในบ้านและรอฟังประกาศจากกองกำลังรักษาความปลอดภัย

ตั้งแต่ปี 2559 ตุรกีได้เปิดปฏิบัติการข้ามพรมแดนที่สำคัญ 3 แห่งในซีเรีย และควบคุมพื้นที่บางส่วนในภาคเหนือ โดยอ้างว่าเป็นแนวกันชนจากกลุ่มก่อการร้าย