xs
xsm
sm
md
lg

IMF ชี้ไทย-จีนเป็น 2 ชาติในเอเชียที่เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มในปีนี้และปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า กิจกรรมเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลงแบบเป็นวงกว้างและมากกว่าที่คาด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ วิกฤตค่าครองชีพ ภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และการแพร่ระบาดแบบต่อเนื่องของโควิด-19 ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวแบบชะลอตัวที่ร้อยละ 3.2 ในปี 2565 จากการขยายตัวร้อยละ 6.0 ในปี 2564 นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะชะลอตัวลงเพิ่มเติมสู่การขยายตัวร้อยละ 2.7 ในปี 2566

นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวขณะเข้าร่วมการประชุมเอเปคที่กรุงเทพฯ วานนี้ (19 พ.ย.) ว่า เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเอเปคส่วนใหญ่กำลังชะลอตัวลง และอย่างน้อย 1 ใน 3 ของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยสหรัฐฯ จีน และยุโรป เผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวพร้อมกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยทั้งสามถือเป็นหัวแรงหลักในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่ยังคงมีความสดใส โดยอาเซียนเป็นหนึ่งในนั้น เช่นเดียวกับบางประเทศที่ได้ผลประโยชน์จากเงื่อนไขการค้าที่ดีขึ้น เช่น กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ แต่โดยรวมแล้วเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลง โดยความเสี่ยงขาลงเข้าครอบงำ

ขณะเดียวกัน รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจของไอเอ็มเอฟ แสดงให้เห็นว่า ไทย และจีน เป็นเพียงสองประเทศในเอเชีย ที่เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ปีก่อนหน้า ไม่นับรวมฮ่องกง และมาเก๊า โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.8 ในปีนี้ เป็นร้อยละ 3.7 ในปี 2566

นอกจากนี้ คาดการณ์อัตราว่างงานของไทยยังต่ำที่สุดในโลกที่ร้อยละ 1.0 ทั้งในปีนี้และปีหน้า ขณะที่ในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก อัตราว่างงานของไทยอยู่ที่ร้อยละ 1.5 เป็นรองแค่คูเวตที่ร้อยละ 1.3