xs
xsm
sm
md
lg

“สุดารัตน์”แนะ รบ.ใช้เวทีเอเปกแสดงศักยภาพ ปท.ฟื้นความเชื่อมั่น-ดึงดูดการลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ไทยควรใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพเอเปค 2022 ในการแสดงศักยภาพประเทศไทย เพื่อดึงดูดการลงทุน และการสร้างรายได้ใหม่ให้ประเทศ มิใช่เพียงเป็นเจ้าภาพเท่านั้น

ดิฉันมีประเด็นสำคัญ ที่อยากจะฝากให้รัฐบาลได้ใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพเอเปคในครั้งนี้ สร้างให้คนทั้งโลกเห็นศักยภาพของประเทศไทย เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศไทยอีกครั้ง เพราะในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทนเราลดต่ำลงไปในแทบจะทุกมิติ ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตได้ช้ากว่าประเทศในระดับเดียวกัน ประเทศและคนไทย โดยเฉพาะคนตัวเล็กมีรายได้ลดลง การจะปฏิรูปประเทศเพื่อให้หลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางเพื่อให้ประเทศกลับมาความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้คนไทยมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างมีความสุขนั้น ต้องเริ่มต้นที่ “การสร้างรายได้” ให้ประเทศของเราให้ได้เสียก่อน

ในการประชุมเอเปค 2022 นี้รัฐบาลจึงควรใช้เป็นโอกาสแสดงศักยภาพประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุน สร้างรายได้ ที่นอกเหนือจากเรื่อง BCG ที่ยกเป็นหัวข้อในการประชุม ดังนี้คือ

1. การสร้างรายได้จากฐานเดิมที่ไทยมีความแข็งแกร่ง คือการสร้างรายได้จาก เกษตร-อาหาร การท่องเที่ยว และ การดูแลและรักษาสุขภาพ เป็นฐานที่ทำได้ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด เพราะประเทศไทยมีความแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

•รายได้จากกลุ่มเกษตร และอาหาร ไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ผลิตอาหารเลี้ยงดูคนไทยและประชาคมโลกมาโดยตลอด สร้างรายได้ให้ประเทศปีละมากกว่า 1 ล้านล้านบาท

•ขณะที่การท่องเที่ยวนั้นประเทศไทยก็ติดหนึ่งในสิบอันดับของโลกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 นั้น ไทยเคยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 2 ล้านล้านบาท การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้ที่สร้างได้เร็วที่สุด ง่ายที่สุด และกระจายไปถึงคนตัวเล็กในวงการท่องเที่ยวและคนตัวเล็กที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคต่างๆของประเทศได้เร็วที่สุด รัฐบาลก็ควรที่จะขยายจุดแข็งของการท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็ควรที่จะปิดจุดอ่อนของการท่องเที่ยวไทย ที่ต่างชาติกำลังจับตามองได้ แก่ เรื่องสวัสดิภาพความปลอดภัยของนักท่อเที่ยว เรื่องสุขอนามัย และเรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ทั้งสามเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขถ้าต้องการให้รายได้จากการท่องเที่ยวไทยเติบโตต่อไป

•การบริการทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ก็เป็นอีกภาคส่วนหนึ่งซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ ในปี 2562 ไทยเคยมีรายได้จากฐานนี้สูงถึง 450,000 ล้านบาท

•อีกฐานรายได้ที่สำคัญคือจากการเป็นศูนย์กลางการคมนาคม และโลจิสติกส์ ของไทย เพราะเรามีทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงซึ่งมีช่องทางเชื่อมโยงกับจีนตอนใต้ ซึ่งประเทศจีนเองก็มุ่งหวังจะใช้เป็นช่องทางเชื่อมระหว่างจีนกับอาเซียนเช่นกัน

ในการประชุมคราวนี้ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตนเอง จึงนับเป็นโอกาสดียิ่งที่จะทำให้ท่านเห็นความสำคัญของประเทศไทยในเรื่องทำเลที่ตั้งให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลทำให้จีนมองเห็นความสำคัญของไทยในด้านการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ได้แล้ว ดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์อย่างมากจากการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์

2. ฐานรายได้ใหม่อีกหนึ่งฐานที่ดิฉันต้องการที่จะให้รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือ ฐานรายได้ที่เกิดจาก “ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนไป” สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน สงครามรัสเซียยูเครน นำไปสู่สงครามเย็นยุคใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดการเผชิญหน้ากัน การกีดกันการค้า การย้ายฐานการผลิตระหว่างประเทศต่างๆมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน รัฐบาลควรใช้โอกาสที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคในครั้งนี้ สร้างตำแหน่งของประเทศไทยบนภูมิรัฐศาสตร์โลกใหม่ ให้ชัดเจน เพราะทั้งสหรัฐ จีน รัสเซียและสหภาพยุโรป ต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน รัฐบาลจึงควรจะใช้ความสัมพันธ์ที่ดีกับมหาอำนาจเหล่านี้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศไทย และประเทศต่างๆ

สุดท้ายที่สำคัญ ที่ดิฉันขอเสนอ คือ ในการประชุมครั้งนี้ควรจะ หยิบยก และการผลักดันให้เกิด ความร่วมมือในการสร้าง ”เขตการค้าเสรีของประเทศกลุ่ม APEC” หรือ FTAAP ตามข้อเสนอของ ภาคเอกชน ที่ได้เสนอไว้แล้ว คือ
21-X ใครพร้อมเข้าก่อน เพราะจะสามารถเพิ่มการค้า การลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิก APEC ได้เป็นอย่างดี