นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัจจุบันภาคตะวันออก ได้เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่มีแหล่งท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ ตั้งอยู่จำนวนมาก และส่วนใหญ่จะใช้น้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ คือ อ่างเก็บน้ำบางพระ ที่เป็น 1 ในศูนย์กลางการจ่ายน้ำที่สำคัญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กรมชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสวอเตอร์ (East Water) ได้ร่วมกันบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำบางพระจนเต็มความจุอ่าง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 หลังจากนั้นได้ใช้น้ำเพื่อผลิตประปาจนปริมาณน้ำลดลงเหลือ 112 ล้าน ลบ.ม. จึงได้ร่วมกันสูบน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิตและแม่น้ำบางปะกง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา มาเติมอ่างเก็บน้ำบางพระ ทำให้มีประมาณน้ำเต็มความจุเป็นครั้งที่ 2 ในปีเดียวกัน นับเป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างประณีต เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งต่อไป ทั้งยังเป็นการช่วยสูบบรรเทาอุทกภัยในคลองพระองค์ไชยานุชิตและแม่น้ำบางปะกงอีกทางหนึ่งด้วย