พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะมีการสรุปคดีดำเนินกับนายทุนจีน โดยแบ่งคดีออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มแรกเป็นคดีผับจิงหลิง ย่านยานาวา ซึ่งอยู่ระหว่างการแกะรอยเส้นทางการเงิน เชื่อมโยงไปหาเส้นทางยาเสพติด โดยจะประสานกับทางการจีน เพื่อส่งต่อข้อมูล ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเหล่านายทุนจีน
ขณะที่ผับท็อปวัน จะเป็นการดำเนินการตรวจสอบธุรกิจแบบนอมินี เชื่อมโยงไปหากลุ่มพัทยา ซึ่งพบว่ามีการสวมบัตรประชาชนของคนไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความสัมพันธ์ทางสายเลือด และการได้มาซึ่งบัตรประชาชนโดยการสวมสิทธิ ในพื้นที่จังหวัดตราด และจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นเสนอต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามเพิกถอน
ส่วนกรณี ผับเบบี้เฟซ จะเป็นการดำเนินการในเรื่องของการครอบครองเหล้า บุหรี่ ซึ่งพบว่าไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไข รวมทั้งการครอบครองรถหรู ซึ่งชื่อไม่ตรงกัน และบางคันไม่สามารถตรวจสอบตัวตนผู้ครอบครองได้