นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านพยายามยื่นคำร้องเพื่อถอนประกาศถอดกัญชาจากความเป็นยาเสพติด โดยยอมรับว่าเคยหวั่นไหวกับความพยายามของฝ่ายค้าน แต่ไม่ใช่ช่วงนี้ มันเกิดขึ้นช่วงแรกๆ ด้วยความที่เราศึกษาเกี่ยวกับกัญชาระหว่างทำนโยบายมานานหลายปีและฝ่ายค้านไม่ได้มาอัปเดตข้อมูลความรู้ พอมีประกาศปลดล็อกกัญชาปุ๊บ ฝ่ายค้านจึงตกใจ ส่วนตัวก็ตกใจที่เขาตกใจ แล้วก็ค่อยๆ มาตกผลึกว่า ฝ่ายค้านยังติดอยู่กับความเข้าใจเดิมๆ ว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ในขณะที่ส่วนตัวขลุกอยู่กับแพทย์ที่ใช้กัญชารักษาคนไข้มาหลายปี ได้ฟังการนำเสนองานวิจัยและสถิติต่างๆ จากต่างประเทศ ได้รู้ว่ากัญชาไม่ได้ติดง่ายเมื่อเทียบกับเหล้าบุหรี่ ไม่เคยทำให้ใครตาย แต่กัญชามีประโยชน์มหาศาล ทำผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ แถมอยู่คู่ภูมิปัญญาไทยมานาน สิ่งเหล่านี้คนทั่วไปไม่รู้เลย แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรู้ จึงได้ให้ถอนกัญชาออกจากความเป็นยาเสพติด
เมื่อถามว่า สุดท้าย พรบ.กัญชา จะผ่านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่คิด แต่ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว วันนี้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ วันนี้กัญชาคือสมุนไพร และได้คืนกัญชาให้ประชาชนแล้ว พร้อมออกกฎกำกับดูแลเท่าที่ขอบเขตอำนาจจะทำได้แล้ว ตนเสนอร่าง พ.ร.บ.จนคณะกรรมาธิการของสภานำไปพิจารณาต่อยอดเพิ่มเติมไปอีกห้าสิบมาตราแล้ว ถ้าสุดท้ายสภาไม่เอาสิ่งที่ร่วมกันสร้างมา ก็ไม่เป็นไร สมัยหน้าก็จะเสนอใหม่
เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาถึงความไม่รอบคอบที่ปลดล็อกก่อนมีกฎหมายควบคุม นายอนุทิน ยืนยันว่า ความรอบคอบในความที่เป็นคนทำงานและเป็นผู้บริหารคือ การที่ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขออกระเบียบเป็นประกาศกระทรวงเพื่อให้การดำเนินนโยบายกัญชา กัญชงไม่สะดุด เพราะคาดไว้ระดับหนึ่งว่าจะต้องมีผู้ขัดขวางการออกกฎหมายด้วยเหตุผลในทางการเมืองซึ่งก็คือ การกลัวพรรคภูมิใจไทยได้รับความนิยมจากประชาชนมากเกินไป ดูได้จากคำพูดของสมาชิกพรรคที่ต่อต้านก็เข้าใจได้เลยว่า พวกเขาไม่ได้ทำการบ้าน ไม่ได้อ่านร่างกฎหมาย ไม่มีหลักการ รับวาระแรกแล้วจะคว่ำวาระสอง ไม่รักประชาชน