แคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย กล่าวแสดงความมั่นใจว่า มาตรการป้องกันโควิด-19 ของออสเตรเลียมีเพียงพอ หลังจากเรือสำราญลำหนึ่งที่มีผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 หลายร้อยคนได้เข้าจอดเทียบท่าในซิดนีย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือสำราญมาเจสติก พรินเซส ของบริษัทคาร์นิวัล ออสเตรเลีย เข้าจอดเทียบท่าที่ซิดนีย์ เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่มีประชากรมากที่สุด โดยผู้โดยสารจำนวน 800 คนบนเรือดังกล่าว มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐฯ ได้จัดอันดับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดไว้ที่ Tier 3 ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดสูง
เมื่อปี 2563 ได้เคยมีการระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นบนเรือสำราญรูบี พรินเซส (Ruby Princess) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อ 914 ราย และเสียชีวิต 28 ราย
รัฐมนตรีมหาดไทยของออสเตรเลีย ระบุว่า ทางการได้กำหนดมาตรการทั่วไปขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 บนเรือสำราญรูบี พรินเซส และกระทรวงสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์จะทำการตัดสินใจว่าจะให้ผู้โดยสารออกจากเรือสำราญมาเจสติก พรินเซส ได้อย่างไรโดยพิจารณาเป็นรายกรณี
รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า การแพร่ระบาดบนเรือสำราญมาเจสติก พรินเซส เกิดขึ้นขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการแพร่ระบาดในชุมชนของไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB