พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานการประชุมซักซ้อมความพร้อมในการอารักขาและอำนวยความสะดวกในการประชุมเอเปค 2022 โดยระบุถึงแนวทางปฏิบัติหลังมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเผยแพร่ลงในราชกิจจานุเบกษา ให้พื้นที่และอาณาบริเวณโดยรอบศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่พำนักผู้แทนประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุมเอเปค 19 แห่ง เป็นสถานที่ควบคุม ห้ามชุมนุม หรือกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงาน หรือการใช้บริการสถานที่ ตั้งแต่วันที่ 14-19 พฤศจิกายนนี้ ว่าแม้จะประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม แต่ตำรวจก็จะปิดการจราจรตลอด 24 ชั่วโมง เพียง 2 เส้นทาง คือ ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกอโศก ถึงแยกพระราม 4 และซอยดวงพิทักษ์ ตั้งแต่ถนนสุขุมวิท ถึงถนนพระราม 4 ซึ่งประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเส้นทางดังกล่าว ขอให้ลงทะเบียนเข้าพื้นที่กับตำรวจ สน.ทองหล่อ และ สน.ลุมพินี ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 20,000 คน
ส่วนที่เหลือเป็นการปิดการจราจรเฉพาะช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ได้แก่ ถนนเพลินจิต ตั้งแต่ใต้ทางด่วนเพลินจิต ถึงแยกราชประสงค์ ซอยร่วมฤดี และซอยต้นสน ปิดการจราจร 2 ฝั่ง ส่วนถนนวิทยุ และถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชประสงค์ ถึงแยกราชดำริ ปิดถนน 1 ฝั่ง และปรับการจราจรเป็นเดินรถทางเดียว ซึ่งในแต่ละจุดจะมีจุดตรวจมั่นคงสำหรับตรวจบัตรประชาชนและการพกพาอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้าพื้นที่ควบคุม
ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องสัญจรผ่านพื้นที่ควบคุม พกบัตรประจำตัวประชาชนให้พร้อม เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน โดยเฉพาะผู้ที่สัญจรทางเท้า บางจุดอาจขอความร่วมมือให้เดินฝั่งตรงข้ามสถานที่ควบคุมแทน
ส่วนกรณีรถบรรทุกขนส่ง โดยเฉพาะรถบรรทุกสารหรือวัตถุอันตราย ตำรวจจะขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางระหว่างช่วงเวลาที่มีการประชุม ซึ่งจะเป็นช่วงเวลากลางวันเท่านั้น
ขณะที่การดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมทางการเมือง หลังมีมวลชนหลายกลุ่มประกาศจะเคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับการประชุมเอเปค ก็ยืนยันว่าตลอดช่วงการประชุม พื้นที่ควบคุมทั้งหมดจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด และมีการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยหากมีการฝ่าฝืนประกาศก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อการประชุมและภาพลักษณ์ของประเทศ