วานนี้ (7 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมด้วย นายธนุ สุขบำเพิง รองหัวหน้าพรรค , นายปฏิยุทธ ทองประจง กรรมการบริหารพรรค, นายทินกร ปลอดภัย ผู้อำนวยการพรรค และนายสานนท์ บุญมี รองโฆษกพรรค ลงพื้นที่รับฟังปัญหากลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม บ้านควนเศียร ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ โดยมีพี่น้องเกษตรกรให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้มารับฟังปัญหาพี่น้องชาวสวนปาล์ม ซึ่งปาล์มเป็นหนึ่งในพืชหลัก พืชเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าเทียบแล้ว ปาล์ม, ยาง, มันสับปะหลัง, อ้อย ,ข้าว และข้าวโพด และที่ตนศึกษามาล่าสุดหัวใจสำคัญของการทำสวนปาล์มคือต้นทุนกับเรื่องปุ๋ย
หลายคนไม่ทราบว่าปุ๋ยเป็นผลจากพลังงาน มาจากก๊าซธรรมชาติ ถ้าก๊าซแพงปุ๋ยก็จะแพง ไม่มีใครรู้ว่าก๊าซธรรมชาติสามารถแปลงไปเป็นปุ๋ยที่เราใช้กันอยู่ได้ ในส่วนของเรื่องโรคระบาด ตนพยายามเป็นปากเป็นเสียง คือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหาทางแก้ไข แต่เรื่องปุ๋ยสามารถแก้ในเชิงนโยบายได้ เราจะทำให้ปุ๋ยราคาถูกลง โดยที่ไม่ต้องเอาเงินภาษีไปอุ้ม เราจะทำราคาปุ๋ยให้เหลือ 750 บาท และเป็นปุ๋ยยูเรียชีวภาพที่ดีที่สุดในโลกที่มาจากพืชเนเปียร์ เพราะปู๋ยยูเรียอื่นทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่ปุ๋ยยูเรียที่เราทำมาจากพืชทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมใดๆ ทั้งสิ้น ปุ๋ยราคาถูกของพวกเราเป็นปุ๋ยราคาถูกจริงๆ ไม่ใช่ปุ๋ยคนละครึ่งที่มีคนมาเลียนแบบพวกเรา มีบางพรรคการเมืองบอกว่าจะทำปุ๋ยคนละครึ่ง แต่ไปซื้อของจากต่างประเทศมา แล้วให้รัฐบาลจ่ายครึ่งหนึ่ง ประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่ง
นี่จะเป็นความยั่งยืนของประเทศ เพราะเมื่อต้นทุนเราถูกลงรายได้จะมากขึ้น ค่าครองชีพจะถูกลง เพราะเนเปียร์สามารถทำไฟฟ้าในราคาหน่วยละ 2.50 เท่านั้น ทำก๊าซหุงต้มเหลือกิโลกรัมละ 15 บาท นี่คือทางออกของอนาคตพี่น้องเกษตรกร ไม่มีพรรคการเมืองใดทำได้เท่ากับพวกเรา ตนไม่เคยโกหกวันนี้ตนมาพูดของจริง
ชาวบ้าน กล่าวว่า ขอขอบคุณคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ที่เห็นความสำคัญของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และพี่น้องชาวกระบี่รวมไปถึงพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า อยากให้คุณหมอและพรรคไทยภักดี ช่วยแก้ไขในสิ่งนี้คือเรื่องโรคระบาดและราคาปุ๋ยที่แพง ตนติดตามคุณหมอมาตลอดผ่านไลฟ์ทางเพจ Facebook และยินดีสนับสนุนคุณหมอตลอดไป
นพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้มารับฟังปัญหาพี่น้องชาวสวนปาล์ม ซึ่งปาล์มเป็นหนึ่งในพืชหลัก พืชเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าเทียบแล้ว ปาล์ม, ยาง, มันสับปะหลัง, อ้อย ,ข้าว และข้าวโพด และที่ตนศึกษามาล่าสุดหัวใจสำคัญของการทำสวนปาล์มคือต้นทุนกับเรื่องปุ๋ย
หลายคนไม่ทราบว่าปุ๋ยเป็นผลจากพลังงาน มาจากก๊าซธรรมชาติ ถ้าก๊าซแพงปุ๋ยก็จะแพง ไม่มีใครรู้ว่าก๊าซธรรมชาติสามารถแปลงไปเป็นปุ๋ยที่เราใช้กันอยู่ได้ ในส่วนของเรื่องโรคระบาด ตนพยายามเป็นปากเป็นเสียง คือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหาทางแก้ไข แต่เรื่องปุ๋ยสามารถแก้ในเชิงนโยบายได้ เราจะทำให้ปุ๋ยราคาถูกลง โดยที่ไม่ต้องเอาเงินภาษีไปอุ้ม เราจะทำราคาปุ๋ยให้เหลือ 750 บาท และเป็นปุ๋ยยูเรียชีวภาพที่ดีที่สุดในโลกที่มาจากพืชเนเปียร์ เพราะปู๋ยยูเรียอื่นทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่ปุ๋ยยูเรียที่เราทำมาจากพืชทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมใดๆ ทั้งสิ้น ปุ๋ยราคาถูกของพวกเราเป็นปุ๋ยราคาถูกจริงๆ ไม่ใช่ปุ๋ยคนละครึ่งที่มีคนมาเลียนแบบพวกเรา มีบางพรรคการเมืองบอกว่าจะทำปุ๋ยคนละครึ่ง แต่ไปซื้อของจากต่างประเทศมา แล้วให้รัฐบาลจ่ายครึ่งหนึ่ง ประชาชนจ่ายครึ่งหนึ่ง
นี่จะเป็นความยั่งยืนของประเทศ เพราะเมื่อต้นทุนเราถูกลงรายได้จะมากขึ้น ค่าครองชีพจะถูกลง เพราะเนเปียร์สามารถทำไฟฟ้าในราคาหน่วยละ 2.50 เท่านั้น ทำก๊าซหุงต้มเหลือกิโลกรัมละ 15 บาท นี่คือทางออกของอนาคตพี่น้องเกษตรกร ไม่มีพรรคการเมืองใดทำได้เท่ากับพวกเรา ตนไม่เคยโกหกวันนี้ตนมาพูดของจริง
ชาวบ้าน กล่าวว่า ขอขอบคุณคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ที่เห็นความสำคัญของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และพี่น้องชาวกระบี่รวมไปถึงพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า อยากให้คุณหมอและพรรคไทยภักดี ช่วยแก้ไขในสิ่งนี้คือเรื่องโรคระบาดและราคาปุ๋ยที่แพง ตนติดตามคุณหมอมาตลอดผ่านไลฟ์ทางเพจ Facebook และยินดีสนับสนุนคุณหมอตลอดไป