ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ทอท. ขอความร่วมมือประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่ท้องฟ้า เช่น ปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูปโปร่ง แสงเลเซอร์ และอากาศยานไร้คนขับ (Drone) หรือวัตถุอื่นใดที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบินในเขตปลอดภัยในการเดินทางอากาศ (บริเวณสนามบิน และโดยรอบสนามบิน) ทั้ง 6 สนามบินของ ทอท. ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2565 วันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2565 เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสาร และประชาชน
สำหรับสนามบิน 6 แห่งภายใต้การดูแลของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่
ทั้งนี้ ตามกฎหมายพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) ระบุการกำหนดโทษคือ มาตรา 109/1 ผู้ใดจุดและปล่อยหรือกระทำการใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ซึ่งเป็นการรบกวน หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินอากาศ หรือปฏิบัติการของอากาศยานภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 59/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 109/2 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 59/2 หรือประกาศต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 109/3 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในมาตรา 59/3 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ระบุว่า ผู้ใดกระทำการให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนเป็นเหตุให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ หรือเป็นเหตุ หรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน ต้องระวางโทษประหารชีวิตจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท
นอกจากนี้ ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง แนวทางพิจารณในการาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร (ห้าไมล์ทะเล) จากสนามบิน หรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้บังคับ หรือปล่อยโดรนต้องขออนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมายก่อนทุกครั้ง และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขต หรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับความนิยมในการปล่อยโคมลอยฯ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศไม่อนุญาตให้มีการจุด และปล่อยโคมลอยฯ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) อย่างเด็ดขาด ในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล อ.หางดง ทุกตำบล (3) อ.สารภี ใน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล หนองผึ้ง และสันทราย อ.แม่ริม ใน 5 ตำบล ได้แก่ ต.ดอนแก้ว ริมใต้ แม่สา เหมืองแก้ว และริมเหนือ อ.สันทราย 1 ตำบล คือ ต.หนองหาร และ อ.สันป่าตอง 1 ตำบล คือ ต.ทุ่งต้อม
สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้กำหนดระยะเวลาในการจุด หรือปล่อย คือ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็ง ให้ปล่อยได้ในคืนวันลอยกระทงเล็ก และวันลอยกระทงใหญ่ ระหว่างเวลา 19.00-01.00 น. วันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2565 โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 30 วัน และต้องแจ้งท่าอากาศยานเชียงใหม่ หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 14 วัน ซึ่งจะมีประกาศแจ้งเตือนผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ให้รับทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2565 มีสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ 77 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินยกเลิก 53 เที่ยวบิน เที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลา 24 เที่ยวบิน ในส่วนจังหวัดเชียงรายได้มีประกาศกำหนดเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ได้แก่ ต.แม่ข้าวต้ม ต.นางแล ต.บ้านดู่ ต.ริมกก ต.รอบเวียง ต.เวียง ต.สันทราย ต.ท่าสาย ต.ป่าอ้อดอนชัย ต.บัวสลี อ.เมืองเชียงราย ต.ดงมหาวัน ต.เวียงเหนือ ต.เมืองชุม ต.เวียงชัย และ อ.เวียงชัย
โดยระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับความร่วมมือจากสายการบินพิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน 10 เที่ยวบิน เพื่อลดความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ ทั้งนี้ ทอท. และสนามบินทั้ง 6 แห่งได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของเครื่องบิน และผู้โดยสารเป็นสำคัญ จึงได้รณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยฯ ให้ปลอดภัย โดยได้ลงพื้นที่ชุมชนโดยรอบสนามบิน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งอันตรายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอากาศยาน