นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงผลยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ทุน มิน หลัด (Tun Min Latt) นักธุรกิจชาวเมียนมา ซึ่งมีการขยายผล ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินเครือข่ายในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้รวมมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมเครือข่ายนี้เริ่มมาจากการที่ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ตำรวจนครบาล จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในปี 2562-2565 จำนวน 5 คดี ยึดยาเสพติด เป็นยาบ้า 3,531,800 เม็ด ไอซ์ 86.98 กิโลกรัม คีตามีน 6 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 380 กรัม จากนั้นได้มีการขยายผล ได้ 2 เคส ในปี 2564 และ ปี 2565 โดยในปี 2565 ได้จับกุมนายวรวัฒน์ วังศพาห์ กับพวก 4 คน ดำเนินคดีในฐานความผิด สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ยึดอายัดทรัพย์กว่า 500 ล้านบาท และขยายผลเพิ่มขออนุมัติสมคบ/ฟอกเงิน จับกุม กลุ่มอัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) 4 คน โดยมี นายทุน มิน หลัด เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ยึดรถหรู นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เงินสดในตู้นิรภัยอีก 8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในขบวนการยังมีตัวการสำคัญอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีหมายจับ ซึ่งเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินหลักของกลุ่มนิติบุคคล เป็นที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ สามารถยึดอายัดที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ รวม 71 แปลง มูลค่า 1,050 ล้านบาท โดยมีทั้งที่ดินเปล่า อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต โรงแรมขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.สงขลา รวมมูลค่าทรัพย์สินรวมของเครือข่าย ทุน มิน หลัด ที่สามารถตรวจยึดได้ทั้งหมด 1,858 ล้านบาท นายสมศักดิ์ บอกอีกว่า สำหรับการจับกุมและยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายนี้ จะมีการมอบเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการจับกุม 25% เป็นเงินกว่า 464 ล้านบาท และจ่ายเงินสินบนให้กับประชาชนผู้แจ้งความนำจับอีก 5% อีกด้วย โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. จะดำเนินการมอบให้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วนผลการจับกุมยาเสพติดในรอบ 1 เดือนที่ผ่ามา (1ต.ค.-1พ.ย.65) สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้ 1,313 ล้านบาท จับกุมยาเสพติดได้ 26,999 คดี จับผู้ต้องหาได้ 27,561 คน ของกลางเป็นยาบ้า 44 ล้านเม็ด ไอซ์ 279กิโลกรัม เฮโรอีน 185 กิโลกรัม คีตามีน 67 กิโลกรัม เอ็กซ์ตาซี 25,285 เม็ด
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. บอกว่า การประชุมระดับเลขาธิการ ป.ป.ส. ของแต่ละประเทศ ที่มาเลเซีย เมื่อวานนี้ ตนเสนอในที่ประชุมว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายเร่งด่วนระงับการส่งออกหรือชะลอการนำเข้าสารโซเดียมไซยาไนด์ สารเบนซิลคลอไรด์ และสารเบนซิลไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารที่นำไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด ซึ่งในที่ประชุมดังกล่าวก็เห็นด้วย และหลังการประชุมเสร็จทางลาวและเมียนมา บอกว่าเราทั้ง 3 ประเทศ ในฐานะที่อยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำจะต้องมาคุยกันอีกรอบ จึงมีการนัดหารือร่วมกันอีกครั้งที่นครเวียงจันทร์ 10-12 ธ.ค.นี้ เพื่อร่วมกันสกัดกั้นและแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน เลขาธิการ ป.ป.ส. เมียนมา แจ้งว่า ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ที่ทางการไทยขอความร่วมมือไป ได้แล้ว 1 คน แต่จะขอดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมืองก่อน 1 เดือน แล้วจะส่งตัวให้ทางการไทยดำเนินคดี นี่เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ที่จะช่วยแก้ปัญหาทั้งเรื่องการหนีหมายจับ การสกัดกั้นเคมีภัณฑ์สารตั้งต้นการผลิตยาเสพติด และการขยายเครือข่าย เพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไป