ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ผู้นำการเมือง เหนือความขัดแย้งของสังคม กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง
ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.1 ระบุ ขบวนการ ลบหลู่ ดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ เป็นต้นตอของความขัดแย้งของสังคมไทย รองลงมาคือ ร้อยละ 53.4 ระบุ กลุ่มการเมืองรับเงินต่างชาติมาป่วนเมืองไทย ร้อยละ 41.9 ระบุ ขบวนการ สามนิ้วเป็นต้นตอของความขัดแย้งของสังคมไทย ร้อยละ 32.0 ระบุ ขบวนการปฏิรูปสถาบันหลักของชาติ คือต้นตอของความขัดแย้งของสังคมไทย ร้อยละ 26.2 ระบุ การปฏิวัติ ยึดอำนาจ ร้อยละ 23.7 ระบุ การควบรวม ผูกขาด ทางธุรกิจ พลังงาน อาหารและสื่อสาร ร้อยละ 14.8 ระบุอื่นๆ เช่น ช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ของงบประมาณและการจัดการทรัพยากรระหว่าง การพัฒนาเมือง กับ ชนบท เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม พบว่า อันดับหนึ่ง หรือร้อยละ 35.8 คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพราะชอบคนนี้ที่ไม่มีประวัติขัดแย้งกับใคร พูดน้อย ใครด่ามาถือเป็นข้อเตือนใจ เป็นคนจิตใจดี มีผลงานช่วยเหลือต่อชีวิตผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจและอื่นๆ แก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ระบบสาธารณสุข เป็นคนดีช่วยเหลือชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย มีฝีมือมีเงินร่ำรวย และชอบคนรวย เป็นต้น อันดับสอง หรือร้อยละ 29.7 ระบุ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้นำการยึดอำนาจ คุมอยู่ไม่ลุกลาม บ้านเมืองเรียบร้อย ไม่วุ่นวาย ซื่อสัตย์โปร่งใสและชอบทหาร เป็นต้น อันดับสาม หรือร้อยละ 13.1 ระบุ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เพราะชอบคนนี้ เป็นผู้หญิง อยากเห็นผู้หญิงเป็นผู้นำ เป็นคนรุ่นใหม่ ไม่มีประวัติขัดแย้งกับใคร และเป็นบุตรสาวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นต้น
นอกจากนี้ รองๆ ลงไปคือ ร้อยละ 6.3 ระบุนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 5.8 ระบุ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 5.6 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และร้อยละ 3.7 ระบุอื่นๆ ตามลำดับ
เมื่อจำแนก ผู้นำการเมือง เหนือความขัดแย้งของสังคม ออกตาม เพศ พบประเด็นที่น่าสนใจคือ ชายร้อยละ 40.2 และหญิงร้อยละ 31.4 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม ในขณะที่ชายร้อยละ 27.0 และหญิงร้อยละ 32.4 ระบุ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนี้ ชายร้อยละ 9.2 และหญิงร้อยละ 16.9 ระบุนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีฐานสนับสนุนจากชายร้อยละ 7.6 หญิงร้อยละ 5.1 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีฐานสนับสนุนจากชายร้อยละ 6.0 หญิงร้อยละ 5.6 ที่ระบุว่าเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคมเป็นอันดับที่ห้า
เมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับฐานสนับสนุนเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม ในกลุ่ม 25-39 ปีมากที่สุดคือร้อยละ 39.5 รองลงมาคือกลุ่มอายุไม่เกิน 24 ปีร้อยละ 33.1 และกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปร้อยละ 31.9 ตามลำดับ ในขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พบฐานสนับสนุนเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคมสูงขึ้นตามช่วงอายุของกลุ่มตัวอย่างคือ กลุ่มอายุไม่เกิน 24 ปีร้อยละ 18.8 กลุ่มอายุ 25-39 ปีร้อยละ 25.2 และกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป ร้อยละ 36.5 ตามลำดับ สำหรับนางสาวแพทองธาร ชินวัตรและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับฐานสนับสนุนเป็นผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคมเด่นในกลุ่มอายุไม่เกิน 24 ปี คือร้อยละ 15 ถึงร้อยละ 20 ในขณะที่กลุ่มอายุที่ยิ่งสูงขึ้นมีสัดส่วนฐานสนับสนุนลดลง ตามลำดับ
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ประชาชนมองความขัดแย้งของสังคมไทยถูกกระตุ้นต่อเนื่องยาวนานมาจากหลายเหตุปัจจัย เช่น ขบวนการลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ กลุ่มการเมืองรับเงินต่างชาติมาป่วนเมืองไทย ขบวนการสามนิ้ว ขบวนการปฏิรูปสถาบันหลักของชาติ การปฏิวัติยึดอำนาจ การควบรวมผูกขาดทางธุรกิจ พลังงาน อาหารและสื่อสาร และช่องว่างความเหลื่อมล้ำของงบประมาณและทรัพยากรระหว่างการพัฒนาเมืองกับชนบท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ยังคงมีผู้นำการเมืองเหนือความขัดแย้งของสังคม ตามฐานสนับสนุนอันดับแรกคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ประชาชนมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีคู่ขัดแย้งน้อย พูดน้อย ใครด่ามาถือเป็นข้อเตือนใจ เป็นคนจิตใจดีมีผลงานช่วยเหลือต่อชีวิตชาวบ้านผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจและอวัยวะอื่นๆ มายาวนานแก้วิกฤตโควิดได้ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่มีฐานะดีและชาวบ้านเชื่อว่าคนมีฐานะดีจะช่วยพวกเขาได้
ส่วน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้รับฐานสนับสนุนจากประชาชนด้วยเหตุผลคล้ายๆ กันคือ การยึดอำนาจและควบคุมดูแลไม่ให้วุ่นวาย แต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นต้นตอของความขัดแย้งของสังคมจากการยึดอำนาจรัฐบาลชุดก่อน นอกจากนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยที่ชาวบ้านชอบเพราะเป็นผู้หญิง มีฐานะดี เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตรและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเพราะความชอบเป็นการส่วนตัว เป็นคนรุ่นใหม่ ไม่มีประวัติขัดแย้ง แต่ประชาชนบางส่วนมองว่ากลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองมีความเชื่อมโยงกับขบวนการต่างๆ ที่กลายเป็นต้นตอของความขัดแย้งของสังคมไทย ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดความขัดแย้งเหล่านั้นโดยช่วยกันป้องกันไม่ให้แกนนำของขบวนการสร้างความขัดแย้งในสังคมกลายเป็นผู้ปกครองที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายในหมู่ประชาชนคนไทยในอนาคต