สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,148 คน จากทั่วประเทศ ในหัวข้อ "คำตอบท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19" เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนกรณีหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลประกาศให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนสามารถเดินทางไปเที่ยวใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการเปิดประเทศและการกระตุ้นเรื่องท่องเที่ยวในช่วงปลายปีน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้บรรยากาศในประเทศกลับมาคึกคัก เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ โดยจากการสำรวจสรุปผลได้ ดังนี้
1. หลังจากประกาศยกเลิกโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนคิดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในช่วงสิ้นปีนี้จะเป็นอย่างไร
ร้อยละ 79.88 ระบุว่า ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ร้อยละ 17.94 ระบุว่า เหมือนเดิม
ร้อยละ 2.18 ระบุว่า แย่ลงกว่าปีที่ผ่านมา
2. ในช่วงสิ้นปี-ปีใหม่นี้ ประชาชนคิดว่าจังหวัดใดน่าท่องเที่ยวมากที่สุด
อันดับ 1 ร้อยละ 38.85 ระบุ เชียงใหม่
อันดับ 2 ร้อยละ 19.30 ระบุ เชียงราย
อันดับ 3 ร้อยละ 15.79 ระบุ น่าน
อันดับ 4 ร้อยละ 13.28 ระบุ ภูเก็ต
อันดับ 5 ร้อยละ 12.78 ระบุ ประจวบคีรีขันธ์
3. ประชาชนสนใจการท่องเที่ยวแบบใด
อันดับ 1 ร้อยละ 55.62 ระบุ เน้นการพักผ่อน พักโรงแรมที่สวยงาม สะดวกสบาย
อันดับ 2 ร้อยละ 51.41 ระบุ ไปทะเล ชายหาด
อันดับ 3 ร้อยละ 45.43 ระบุ เที่ยววัด ทำบุญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์
4. ปัจจัยใดที่จะทำให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น
อันดับ 1 ร้อยละ 71.65 ระบุ ค่าใช้จ่ายเหมาะสม คุ้มค่า
อันดับ 2 ร้อยละ 68.50 ระบุ ความสะดวกในการเดินทาง
อันดับ 3 ร้อยละ 46.98 ระบุ มีโปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร เป็นต้น
5. หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลควรเร่งดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร
อันดับ 1 ร้อยละ 60.16 ระบุ กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ กระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ
อันดับ 2 ร้อยละ 57.34 ระบุ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง
อันดับ 3 ร้อยละ 56.29 ระบุ เปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ๆ มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ
6. ประชาชนมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้หรือไม่
อันดับ 1 ร้อยละ 54.01 ระบุ มี
อันดับ 2 ร้อยละ 32.49 ระบุ ยังไม่แน่ใจ
อันดับ 3 ร้อยละ 13.50 ระบุ ไม่มี 13.50
7. กรณีที่ประชาชนมีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ เป็นการท่องเที่ยวแบบใด ค่าใช้จ่ายประมาณกี่บาท
อันดับ 1 ร้อยละ 87.58 ระบุ เที่ยวในประเทศ (คาดการณ์ใช้จ่ายต่อทริปเฉลี่ยประมาณ 11,977 บาท)
อันดับ 2 ร้อยละ 12.42 ระบุ เที่ยวต่างประเทศ (คาดการณ์ใช้จ่ายต่อทริปเฉลี่ยประมาณ 75,900 บาท)
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวเริ่มเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นจากสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยที่เริ่มกลับมาครึกครื้น จะเห็นได้จากผลสำรวจที่ประชาชนมองว่าการท่องเที่ยวไทยในสิ้นปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งได้มีแผนเดินทางท่องเที่ยวไว้แล้ว โดยสนใจท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น หากภาครัฐมีการส่งเสริมเรื่องค่าใช้จ่าย โปรโมชั่น การเดินทางที่สะดวก มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งเมืองหลักและเมืองรองก็จะช่วยกระตุ้นการเดินทางในประเทศได้ตรงใจประชาชน และทำให้ประชาชนกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น
ด้าน ผศ.ดร.พิมพ์มาดา วิชาศิลป์ คณบดีโรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ผลจากการสนทนากลุ่มเรื่องคำตอบท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19 พบว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยในไตรมาส 4 นี้จะมีการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ โดยทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเห็นว่าคำตอบของท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19 ควรมาจากการออกแบบการท่องเที่ยวใหม่ หรือ Tourism Redesign โดยนำเสนอยุทธศาสตร์สมดุล 4 ประการ เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คือ สมดุลเมืองหลักและเมืองรอง สมดุลผู้ประกอบการรายย่อยและรายใหญ่ สมดุลด้านการใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น และ สมดุลของแผนด้านการท่องเที่ยวระยะสั้นและระยะยาว
ทั้งนี้ หลายภาคส่วนที่เข้าร่วมสนทนากลุ่มมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันในประเด็นด้านอุปทานการท่องเที่ยว ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมการตลาดสำหรับนักท่องเที่ยวในฝั่งอุปสงค์ โดยดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สิ่งสำคัญที่สุด คือ การนำเสนอคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างจริงแท้ ซื่อตรง เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง