การรถไฟแห่งประเทศไทยตรวจสอบความเรียบร้อยและเตรียมความพร้อมของอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่เชื่อมระหว่างถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจตุจักร กับถนนรถไฟ ก่อนเปิดใช้งานในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เพื่ออำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาการจราจรของประชาชนในพื้นที่เขตบางซื่อ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปรับปรุงอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับการเชื่อมโครงข่ายการจราจรรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับใช้เชื่อมต่อระหว่างถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจตุจักร กับถนนรถไฟ ช่วงบางซื่อ – จตุจักร - วัดเสมียนนารี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมาใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรให้แก่ประชาชนผู้สัญจรไปมาในละแวกใกล้เคียง
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เร่งรัดเข้าดำเนินการปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบสูบน้ำภายในอุโมงค์ และร่วมกับสำนักงานเขตบางซื่อ สำนักงานเขตจตุจักร สน.เตาปูน สน.ประชาชื่น ตำรวจรถไฟ SCG และสำนักงานประปา สาขาพญาไท ฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจราจร จัดเก็บขยะมูลฝอยจนเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเปิดใช้งานตามกำหนดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ประสานการไฟฟ้านครหลวง ให้เข้ามาดำเนินการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อให้บริการเป็นทางสาธารณะ สำหรับให้ประชาชนใช้ในการสัญจร ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนให้เคลื่อนย้ายรถยนต์ที่จอดกีดขวางการจราจรบริเวณริมถนนและทางเข้า-ออกอุโมงค์ โดยเมื่อเปิดใช้บริการแล้วอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการจราจรบริเวณแยกช่วงบางซื่อ-จตุจักร- วัดเสมียนนารี และสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่จะเดินทางมายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากลุ่มคนร้ายเข้ามาทำความเสียหายกับทรัพย์สินราชการในอนาคต การรถไฟฯ และกองบังคับการตำรวจรถไฟ ได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ออกตรวจตราพื้นที่โดยรอบอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง ช่วยสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา ป้องกันไม่ให้บุคคลใดเข้ามาสร้างความเสียหายระบบสาธารณประโยชน์ รวมถึงช่วยกันไม่ทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลลงบนพื้นผิวจราจร เพื่อทำให้อุโมงค์สามารถใช้งานและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมในระยะยาวสืบไป