นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถาบันวัคซีนนานาชาติ เป็นองค์กรระดับโลกด้านวัคซีน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2540 เพื่อพัฒนาและส่งมอบวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพงสำหรับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยมีการก่อตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ.2555 ก่อนการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 อย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของวัคซีน ให้มีความพร้อมรับมือกับโรคระบาดในอนาคต ในนามของรัฐบาลไทยต้องขอขอบคุณ IVI ที่จัดพิธีแสดงสัตยาบันของการที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี (State Party) ของ IVI ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมความร่วมมือ ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่างๆ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีน โดยปีนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติบรรลุข้อตกลงกับทาง IVI ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญของสถาบันฯ จำนวน 3 คนไปเรียนรู้และทำให้เกิดเครือข่ายการทำงานร่วมกัน ส่วนการประชุม World Bio Summit 2022 เป็นการประชุมที่รวบรวมผู้นำระดับโลกด้านวัคซีน เพื่อหารือเกี่ยวกับ “อนาคตของวัคซีนและชีวอนามัย” จากประสบการณ์และบทเรียนที่เรียนรู้จากการระบาดของโรคโควิด 19 พร้อมเสนอวิธีการเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อโรคติดเชื้อในอนาคต ซึ่งตนได้นำเสนอภายในงานว่า บทเรียนการระบาดใหญ่ของโรคโควิด 19 คือ ไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย และต้องเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามต่อสุขภาพในอนาคต ซึ่งการพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรค ยา และวัคซีนเพื่อป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ต้องได้รับความร่วมมืออย่างมากจากนานาประเทศ อย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องยากสำหรับประเทศใดประเทศหนึ่งที่จะพร้อมในทุกด้าน เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แหล่งเงินทุน ต้นแบบของไวรัสที่มาจากการระบาด และโอกาสในการทดลองวัคซีน ดังนั้น จึงต้องร่วมกันคิดหาวิธีวางแผนและบรรลุเป้าหมาย