พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อติดตามอาวุธปืนที่ถูก ด.ต.เชาวลิต ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.ปากเกร็ด ขโมยออกจากคลังอาวุธ สภ.ปากเกร็ด ไปรวม 159 กระบอก จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาและผู้ครอบครองอาวุธปืนราชการดังกล่าว ทราบว่าปืนส่วนใหญ่กระจายไปอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในภาคกลาง แต่ก็มีบางกระบอกไปอยู่ถึง จ.อุบลราชธานี นครสวรรค์ และจันทบุรี โดยผู้ที่ได้ไปมือแรกจะเป็นกลุ่มผู้ลักลอบเปิดบ่อนการพนันและรับจำนำปืนไว้ ก่อนมีการขายส่งต่อไปให้ผู้อื่น ซึ่งส่วนใหญ่ตอนนี้พบว่าปืนจะอยู่กับผู้ครอบครองช่วงที่ 3 แล้ว
สำหรับผู้รับจำนำปืนไปนั้น ตามปกติวิสัยของธุรกิจรับจำนำย่อมทราบดีว่าอาวุธปืนไม่ได้เป็นทรัพย์สินทั่วไป ปืนต้องต้องมีใบอนุญาตให้ครอบครองเฉพาะบุคคลต่อปืนกระบอกนั้น ดังนั้น ย่อมมีความผิดฐานรับของโจรอย่างแน่นอน โดยบุคคลที่ได้อาวุธปืนไปนั้นตอนนี้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ร้อยละ 90 แล้ว จากนี้จะต้องมีการเข้าตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมอีกแน่นอน
ส่วนปืนในกระเป๋าเดินทางที่มีคนนำมาทิ้งไว้บนสนามหญ้าหน้าสโมสรตำรวจเมื่อคืนนี้ทั้ง 25 กระบอก ตอนนี้ส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหานั้นให้การเป็นประโยชน์และรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนจะมีผู้ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง