น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงผลการประชุมของ กสทช. ที่รับทราบการควบรวมกิจการของดีแทคและทรู ว่า เป็นไปตามที่คาดไว้ และผิดหวังมาก เพราะคาดหวังไว้ว่า กสทช. จะใช้อำนาจของตนเองอย่างเต็มที่ มติครั้งนี้ไม่ได้อนุญาตให้ควบรวม แต่เป็นการรับทราบที่จะควบรวม โดยมีเสียงลงมติ 3 ต่อ 2 รับทราบการควบรวม ซึ่งเสียงข้างมากบอกว่าตนเองไม่ได้มีอำนาจอนุญาตให้ควบรวม เพียงแต่รับทราบเท่านั้น แสดงว่า กสทช. มองว่า True และ Dtac ไม่ใช่กิจการประเภทเดียวกัน ทั้งๆ ที่ขัดกับสายตาคนทั้งประเทศ เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีต่อกฎหมายที่กำกับดูแล ถ้าในอนาคต AIS และ 3BB จะควบรวมกัน จำเป็นจะต้องขออนุญาตต่อหรือไม่ และจะนับเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้าง การควบคุมราคา และมาตราการเฉพาะที่ออกมาขณะนี้ยังไม่เพียงพอจะกู้คืนสภาพการแข่งขันที่เคยมี 3 เจ้า
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตนจะยื่นคัดค้านเรื่องนี้ต่อไป เพราะ กสทช. ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด โดยจะฟ้องตามมาตรา 157 ทั้งคณะ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า กสทช. ปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ หากผิดจริง การควบรวมครั้งนี้อาจเป็นโมฆะได้
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า กรณีควบรวมกิจการดังกล่าว รัฐบาลสามารถมีบทบาทแทรกแซงเรื่องนี้ได้ แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย จนอดคิดไม่ได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และเห็นว่าหลังจากนี้จะต้องทบทวนกฎหมายว่าด้วยที่มาของ กสทช. ซึ่งจำเป็นต้องทำให้ กสทช. ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น แก้ไขประกาศต่างๆ ที่ออกมาภายหลัง และแก้ไขบทบาทอำนาจของตนเองใหม่ให้สามารถอนุญาตการควบรวมกิจการได้