นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ความรุนแรง?
คนดีของอีกคน อาจเป็นคนเลวของอีกคนก็ได้
คนดีมักถูกยกย่องจากฝั่งเดียวกันเอง ส่วนอีกฝั่งมักมองเป็นคนเลว เป็นเรื่องปกติทางการเมือง
ความรุนแรงทางการเมืองมีหลายระดับ ด่ากันในสภา จนชกกันก็มี
ผู้นำม็อบปลุกระดม จนคนฟังของขึ้น ไปปิดโน่นพังนี่ ก่อความเดือดร้อนให้บ้านเมือง
นี่ก็ถือเป็นความรุนแรงรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
ตอนนั้นชื่นชมบอกเป็นคนดี แต่ตอนนี้กลายเป็นคนเลวไปเสียแล้ว
ส่วนคนเลว สักพักดันกลับกลายเป็นคนดี เพราะมีชาวบ้านเลือกเข้าสภาเป็นผู้ทรงเกียรติ
จึงหาคำจำกัดความคำว่า “คนดี” ในทางการเมืองยาก
คุณศรีเป็นนักร้อง ที่ร้องเรื่องฝั่งตรงข้ามอยู่เป็นประจำ จึงมีคนอดรนทนไม่ไหว อย่างที่ผมพากย์ขอบสนามมวยตู้
บางคนเขาดราม่าบอกว่าไป “สนับสนุนความรุนแรง”
จึงขอทำความเข้าใจว่า ความรุนแรงมีหลายประเภท ทั้งคำพูด และการกระทำ บางครั้งเรียกว่า “บันดาลโทสะ”
พูดจากวนอารมณ์ ท้าทาย ไม่ให้เกียรติ
ก็ถือว่า ปลุกอารมณ์ทางวาจาให้เกิดความรุนแรง
อย่างกระผมก็เคย ศอกพิฆาตกลางห้องส่งรายการทีวีมาแล้ว หลังถูกกวนอารมณ์ ชวนทะเลาะมากกว่าชวนสัมภาษณ์ เลยใส่ศอกเข้าให้ เพราะคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่
อันนี้ผมก็ผิด ยอมรับว่า บันดาลโทสะ แต่ใช่ว่าจู่ๆ ไปใช้ความรุนแรงเสียที่ไหน? มันต้องถูกยั่วยุ
ส่วนการถือเอกสารร้องออกสื่อไปทั่ว โหมกระหน่ำนำเสนอข่าวว่าเขาเป็น "คนเลว" โดยไม่รู้ว่า ท้ายสุดเขาทำผิดจริง หรือเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์
แบบนี้ก็เป็น "ความรุนแรง" อีกรูปแบบหนึ่ง
ทำลายชีวิตคนโดยเอากระดาษ และสื่อ เป็นอาวุธ
ใช้ “กฎหมาย” รังแก สร้างความรุนแรงต่อชีวิตผู้อื่น
คนชกแกคงทนไม่ไหว เพราะแม้คุณศรีไม่ได้ใช้ความรุนแรงทางเชิงมวย แต่แกก็แรงไม่เบาเรื่องบู๊ล้างผลาญยื่นร้องไม่ยั้งแทบทุกเรื่องเหมือนกัน
ดังนั้น เข้าทำนอง “ขิงก็รา ข่าก็แรง”
ของแรงด้วยกันทั้งคู่
นี่ผมพูดจากใจ ใช่จะไปสนับสนุนของพรรค์นี้ มันห้ามได้ที่ไหน ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
คนชกก็ใช่อายุน้อยๆ ใครจะไปกล่อม หรือสั่งสอนให้แกทำได้
ผมไม่ได้ไปยุยงส่งเสริมให้ทำ หรือเห็นด้วย เพราะคนทำแกก็ผิด
นักข่าวมาสัมภาษณ์ผมยังตอบ “ไม่รู้ ไม่รู้” แถมยังถามกลับว่า “แล้วชาวบ้านชอบไหมล่ะ?”
อย่าไปคิดว่าผมสะใจนะครับ คิดแบบนั้นบาปกรรมตายชัก