จากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุกเข้าไปตรวจค้นร้านขายของชำต้องสงสัย ว่าจะขายบุหรี่เถื่อนตามที่สายรายงาน และพบบุหรี่เถื่อนในห้องนอน 6 ซองจริง จึงดำเนินคดีก่อนเปรียบเทียบปรับเจ้าของร้านตามกฎหมายนั้น วันนี้ (15 ต.ค.) น.ส.สุกัญดา บุตรสืบสาย อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่เกินกว่าเหตุ เพราะบุกเข้าไปตรวจค้นถึงในห้องนอน ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนกรณีบุหรี่ที่พบนั้น สามีเป็นคนฝากให้เพื่อนซื้อมาจากจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเอามาไว้สูบเอง หากเจ้าหน้าที่บอกว่าผิดก็พร้อมรับผิด เสียค่าปรับ แต่ที่ขัดข้องใจคือ บุกเข้าไปโดยไม่มีหมายค้นถึงในห้องนอน
นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติระหว่างที่ตนเซ็นชื่อจ่ายค่าปรับ มีการเอามือมาปิดบังข้อความเอาไว้ไม่ให้อ่าน อ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ ทำให้รู้สึกผิดปกติ
ขณะที่ ลูกสาวเจ้าของร้าน กล่าวว่า ปกติจุดผ่อนปรนชายแดนฯ เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เอาบุหรี่ หรือสุรา เข้ามาในประเทศไทยได้ แต่มีข้อจำกัดคือ เฉพาะบุหรี่ จะถือเข้ามาในเมืองไทยได้คนละไม่เกิน 1 คอตตอน หรือ 10 ซองบุหรี่ แต่กรณีการจับกุมนั้น มีบุหรี่อยู่ในครอบครองเพียง 6 ซองเท่านั้น ถ้าคิดว่าเป็นความผิดน่าจะไม่ให้เอาเข้ามาจากจุดผ่อนปรนแต่แรก
ส่วนกรณีบุหรี่ที่พบนั้น สามีเป็นคนฝากให้เพื่อนซื้อมาจากจุดผ่อนปรนชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเอามาไว้สูบเอง หากเจ้าหน้าที่บอกว่าผิดก็พร้อมรับผิด เสียค่าปรับ แต่ที่ขัดข้องใจคือ บุกเข้าไปโดยไม่มีหมายค้นถึงในห้องนอน
นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติระหว่างที่ตนเซ็นชื่อจ่ายค่าปรับ มีการเอามือมาปิดบังข้อความเอาไว้ไม่ให้อ่าน อ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ ทำให้รู้สึกผิดปกติ
ขณะที่ ลูกสาวเจ้าของร้าน กล่าวว่า ปกติจุดผ่อนปรนชายแดนฯ เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เอาบุหรี่ หรือสุรา เข้ามาในประเทศไทยได้ แต่มีข้อจำกัดคือ เฉพาะบุหรี่ จะถือเข้ามาในเมืองไทยได้คนละไม่เกิน 1 คอตตอน หรือ 10 ซองบุหรี่ แต่กรณีการจับกุมนั้น มีบุหรี่อยู่ในครอบครองเพียง 6 ซองเท่านั้น ถ้าคิดว่าเป็นความผิดน่าจะไม่ให้เอาเข้ามาจากจุดผ่อนปรนแต่แรก