xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19 ในไทยลดต่อเนื่อง รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 416 คน/วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในรอบสัปดาห์ (2-8 ต.ค. 65) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 2,915 คน เฉลี่ยวันละ 416 คน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า (25 ก.ย. – 1 ต.ค. 65) ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,435 คน เฉลี่ยวันละ 634 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2,461,612 คน ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่มี 58 คน เฉลี่ยวันละ 8 ราย สะสม 11,131 คน มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 410 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 225 คน

สำหรับจำนวนการให้วัคซีน ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2565 มีการให้วัคซีนสะสม 142,726,489 โดส เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,014,752 โดส เพิ่มขึ้น 375 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 53,499,963 โดสเพิ่มขึ้น 551 โดส และตั้งแต่เข็มที่3 ขึ้นไป 32,211,774 โดส เพิ่มขึ้น 4,962 โดส

น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ในต่างประเทศได้มีการตรวจพบโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนตัวใหม่ เช่น สายพันธุ์ BQ.1.1 และ XBB โดยระบุว่าสามารถแพร่เชื้อได้เร็ว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานว่าจากการเฝ้าระวังร่วมกับเครือข่ายทั่วประเทศ ยังไม่มีรายงานการตรวจพบสายพันธุ์ดังกล่าวในประเทศไทย โดยสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.5 ซึ่งแนวโน้มสอดคล้องกับทั่วโลกที่ BA.5 ยังคงเป็นสายพันธุ์หลัก

ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะได้ปรับลดโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย ให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา แต่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีระบบการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยติดตามดูสายพันธุ์ที่อาจมีปัญหาอย่างใกล้ชิด หากพบสัญญาณว่าตัวใดมีปัญหาจะจับตาเป็นพิเศษ แต่ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีสัญญาณการกลายพันธุ์ที่ต้องกังวล ประชาชนสามารถใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่ต้องตื่นตระหนก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลยังคงเน้นย้ำว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นยังมีความจำเป็น ขอให้ประชาชนที่รับวัคซีนครบตามเกณฑ์แล้ว เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 และตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2565 กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มฉีดวัคซีนแก่เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ซึ่งจะทำให้การรับวัคซีนของประชากรกลุ่มต่างๆ มีความครอบคลุมมากขึ้น จากก่อนหน้านี้เด็กเล็กจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากการพัฒนาวัคซีนยังไม่ครอบคลุม

โดยข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าผู้ปกครองของเด็กอายุ 6 เดือน - 4 ปี ได้ลงทะเบียนเพื่อให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีนแล้ว 4 แสนคน โดยผู้ผลิตวัคซีนจะส่งมอบวัคซีนสำหรับเด็กกลุ่มดังกล่าวล็อตแรกในเดือนตุลาคม จำนวน 5 แสนโดส ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทยอยฉีดให้กลุ่มเป้าหมายต่อไป