นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในวันนี้ (8 ต.ค.) มีความไหลเชี่ยวรุนแรงขึ้น เวลาปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา แตะระดับ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เทียบกับเมื่อวานนี้มีระดับความเร็ว 2,877 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำที่บ้านป้อม พระนครศรีอยุธยา ระดับตลิ่ง 4.35 เมตร ระดับน้ำ 5.69 เมตร เมื่อวานอยู่ที่ 5.67 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร
ปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไหลผ่านสถานี S.28 อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 861 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อวาน 830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำระบายเพิ่มขึ้น 31 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำที่ สถานี S.26 (เขื่อนพระรามหก) อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบาย 1,052 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับตลิ่ง 8 เมตร ระดับน้ำ 9.86 เมตร เมื่อวาน 9.81 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร สถานี S.5 (สะพานปรีดี-ธำรง) อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรียุธยา ระดับตลิ่ง 4.70 เมตร ระดับน้ำ 4.79 เมตร เมื่อวาน 4.78 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร เป็นผลให้กรมเจ้าท่าออกประกาศเขตควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่หน้าวัดพนัญเชิง ถึงอำเภอนครหลวง และแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงจังหวัดอ่างทอง ส่งผลให้เรือเพื่อการบรรทุกสินค้า และลากจูง ต้องงดทำการขนส่งจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจำเป็นต้องออกประกาศดังกล่าวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเดินเรือ และป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อตลิ่งและบ้านเรือนตลอดแนวแม่น้ำดังกล่าว