กรมชลประทาน มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัดเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ได้แก่ จ.ชัยนาท อุทัยธานี และ นครสวรรค์ ขอให้แจ้งเตือนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 30 เซนติเมตร
เนื่องจากปริมาณน้ำทางภาคเหนือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ในเกณฑ์ 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เนื่องจากบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเกิดภาวะน้ำท่วมขัง ชุมชนริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่องกว่า 2 เดือน เพื่อควบคุมผลกระทบดังกล่าวไม่ให้ขยายวงกว้าง กรมชลประทานมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ชะลอน้ำไว้ก่อน
โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อาจเพิ่มขึ้น แต่จะไม่ให้เกิน +17.50 เมตร (รทก) จะส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 เซนติเมตร มีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ดังเช่นปี 2564 คือ บริเวณ อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ และ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท , อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี และ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โดยน้ำจะเอ่อลันตลิ่งทั้งสองฝั่ง เข้าพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมน้ำนอกคันกั้นน้ำ ประมาณ 700 ครัวเรือน
ล่าสุด ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สูงกว่าตลิ่ง 52 เซนติเมตร จากการหน่วงน้ำเหนือเขื่อน มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ อ.เมืองชัยนาท อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ แล้ว กว่า 350 หลังคาเรือน โดยยังคงขยายวงกว้างมากขึ้น รวมถึงระดับน้ำที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
น้ำยังล้นตลิ่งเข้าท่วมลานหน้าวัดป่าเจ้าพระยา ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท และเขื่อนเรียงหิน รวมถึงลานออกกำลังกาย หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เทศบาลเมืองชัยนาทต้องตัดกระแสไฟฟ้าและติดป้ายเตือนไม่ให้เล่นน้ำบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังระดมกระสอบทราย เสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นจากเดิมอีก 20 เซนติเมตร ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมถนนทางหลวงชนบท 1005 และหลากเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ชั้นใน
