น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตามประกาศยกเลิกมาตรการโควิด-19 จากโรคควบคุม เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังว่า ตามประกาศยกเลิกมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และประกาศหลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายลง กระทรวงสาธารณสุข จึงประกาศยกเลิกโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้กลับไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงยกเลิกประกาศ 3 ฉบับ เพื่อให้สอดรับด้วย แต่สถานศึกษา เป็นสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มและทำกิจกรรมที่จำเป็นต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการ จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ จึงต้องปรับแนวปฏิบัติให้สอดรับกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข หากมีการติดเชื้อในสถานศึกษาให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมโดยไม่ปิดเรียน เน้นการพัฒนาระบบและทักษะให้นักเรียนและครูสามารถดูแลตนเองได้ โดยใช้โครงการ 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ มีระบบการคัดกรอง เฝ้าระวัง การส่งต่อ ด้านความเครียดหรือซึมเศร้าต่าง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือและลดความรุนแรง
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงยกเลิกประกาศ 3 ฉบับ เพื่อให้สอดรับด้วย แต่สถานศึกษา เป็นสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มและทำกิจกรรมที่จำเป็นต่อการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการ จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ จึงต้องปรับแนวปฏิบัติให้สอดรับกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข หากมีการติดเชื้อในสถานศึกษาให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมโดยไม่ปิดเรียน เน้นการพัฒนาระบบและทักษะให้นักเรียนและครูสามารถดูแลตนเองได้ โดยใช้โครงการ 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ มีระบบการคัดกรอง เฝ้าระวัง การส่งต่อ ด้านความเครียดหรือซึมเศร้าต่าง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือและลดความรุนแรง