วันนี้ (13 ส.ค.) นางญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยกรุงเทพมหานครและถนนข้าวสาร เปิดเผยถึงกรณีปล่อยให้มีการขายกัญชาเสรีบนถนนข้าวสาร ว่า หลังจากปลกล็อกกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติด ประเภทที่ 5 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้บนถนนข้าวสารมีผู้ค้าขายกัญชามากขึ้น ซึ่งจากภาพที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียว่ามีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทดลองสูบกัญชาแล้วมีผลข้างเคียง ส่งผลให้ต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นจำนวนมากนั้น กระทบต่อภาพลักษณ์แหล่งการท่องเที่ยวด้านลบมากกว่าด้านบวก
นอกจากนี้ ยังทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวหายไปด้วย เนื่องจากกังวลว่าบุตรหลานจะได้รับสารที่เกิดจากการปล่อยควันเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น รวมถึงกฎหมายในต่างประเทศที่ยังขึ้นทะเบียนว่ากัญชาเป็นสารเสพติด หากนักท่องเที่ยวสูดดม หรือมีสารอยู่ในร่างกาย เมื่อกลับเข้าประเทศจะถูกดำเนินคดีทันที จึงมองว่า กัญชาจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้
ทั้งนี้ การปล่อยให้กัญชาซื้อขายอย่างเสรีได้นั้น รัฐต้องออกกฎหมายให้ครอบคลุมและเข้มงวด ก่อนที่จะออกประกาศว่าสามารถค้าขายอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากประกาศ มีผู้ค้าขายกัญชาอย่างแพร่หลาย และไม่ดำเนินการขายตามกฎหมายก็มี เช่น การขายกัญชาให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวหายไปด้วย เนื่องจากกังวลว่าบุตรหลานจะได้รับสารที่เกิดจากการปล่อยควันเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น รวมถึงกฎหมายในต่างประเทศที่ยังขึ้นทะเบียนว่ากัญชาเป็นสารเสพติด หากนักท่องเที่ยวสูดดม หรือมีสารอยู่ในร่างกาย เมื่อกลับเข้าประเทศจะถูกดำเนินคดีทันที จึงมองว่า กัญชาจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้
ทั้งนี้ การปล่อยให้กัญชาซื้อขายอย่างเสรีได้นั้น รัฐต้องออกกฎหมายให้ครอบคลุมและเข้มงวด ก่อนที่จะออกประกาศว่าสามารถค้าขายอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากประกาศ มีผู้ค้าขายกัญชาอย่างแพร่หลาย และไม่ดำเนินการขายตามกฎหมายก็มี เช่น การขายกัญชาให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด