ภายในสัปดาห์นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมเปิดรับฟังความเห็นแนวทางการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) งวดใหม่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ผ่านทางเว็บไซต์ www.erc.or.th เป็นครั้งแรกที่เปิดรับฟังความเห็น จากปกติจะรอให้ทางคณะกรรมการ กกพ. พิจารณาประกาศค่าเอฟทีงวดใหม่ก่อน เนื่องจากครั้งนี้ กกพ. เห็นว่าสถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่เป็นตัวแปรสำคัญในการพิจารณาค่าเอฟทีมีความผันผวน เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และรุนแรง จึงได้จัดทำกรณีศึกษา 3 แนวทาง เพื่อรับฟังความเห็น และนำข้อสรุปให้บอร์ด กกพ. พิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย คาดว่าจะมีการประชุมและประกาศค่าเอฟทีงวดใหม่ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ถึงต้นเดือนหน้า
สำหรับ 3 กรณี ได้แก่ กรณีศึกษาแรก เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดใหม่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เป็นการเพิ่มขึ้นตามการประมาณการณ์ต้นทุนค่าเชื้อเพลิง (เอฟเอซี) เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ที่เกิดขึ้นจริง 93.43 สตางค์ต่อหน่วย กรณีที่สอง เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดใหม่ 139.13 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นตามเอฟเอซี เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 จำนวน 93.43 สตางต์ต่อหน่วย บวกกับยอดต้นทุนค่าไฟสะสมงวดที่ผ่านมา (เอเอฟ) จำนวน 83,010 ล้านบาท มาเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้า ภายใน 1 ปี ทยอยปรับ 3 งวด งวดละ 45.70 สตางค์ต่อหน่วย
นอกจากนี้ กรณีที่ 3 เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดใหม่ 116.28 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นตามเอฟเอซี จำนวน 93.43 สตางต์ต่อหน่วยบวกกับเงินเอเอฟ จำนวน 83,010 ล้านบาท มาเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าภายใน 2 ปี ทยอยปรับ 6 งวด งวดละ 22.85 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งการพิจารณาต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบค่าใช้จ่ายของประชาชน และความมั่นคงทางด้านไฟฟ้าในระยะยาวมาประกอบด้วย เพราะปัจจุบันนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเกือบแสนล้านบาท แล้ว
สำหรับ 3 กรณี ได้แก่ กรณีศึกษาแรก เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดใหม่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เป็นการเพิ่มขึ้นตามการประมาณการณ์ต้นทุนค่าเชื้อเพลิง (เอฟเอซี) เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ที่เกิดขึ้นจริง 93.43 สตางค์ต่อหน่วย กรณีที่สอง เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดใหม่ 139.13 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นตามเอฟเอซี เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 จำนวน 93.43 สตางต์ต่อหน่วย บวกกับยอดต้นทุนค่าไฟสะสมงวดที่ผ่านมา (เอเอฟ) จำนวน 83,010 ล้านบาท มาเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้า ภายใน 1 ปี ทยอยปรับ 3 งวด งวดละ 45.70 สตางค์ต่อหน่วย
นอกจากนี้ กรณีที่ 3 เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดใหม่ 116.28 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นตามเอฟเอซี จำนวน 93.43 สตางต์ต่อหน่วยบวกกับเงินเอเอฟ จำนวน 83,010 ล้านบาท มาเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าภายใน 2 ปี ทยอยปรับ 6 งวด งวดละ 22.85 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งการพิจารณาต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบค่าใช้จ่ายของประชาชน และความมั่นคงทางด้านไฟฟ้าในระยะยาวมาประกอบด้วย เพราะปัจจุบันนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเกือบแสนล้านบาท แล้ว