วันนี้ (9 ก.ค.) นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยถึงโครงการ ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท ว่า โครงการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างมาก ทำให้ประชาชนขาดแคลนในเรื่องอาหารการกิน ทางสมาคมภัตตาคารไทยจึงได้มีการปรึกษาหารือกับผู้ประกอบการภัตตาคาร ที่มีสมาชิกประมาณ 35,000 แห่ง รวมทั้งรัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อหาอาหารราคาถูก และมีคุณภาพให้ประชาชนได้รับประทานในราคาถูก คือข้าวราดแกงจานละ 25 บาท สามารถกินได้อิ่มใน 1 มื้อ
โดยเบื้องต้นจะเปิดโครงการ ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 100 ร้านก่อน เพื่อนำร่อง โดยเน้นตามสถานีบริการน้ำมัน PT ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีประมาณ 200 แห่ง รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวแกงที่ต้องการร่วมโครงการ เนื่องจากไม่อยากให้มีพ่อค้าแม่ค้าเพิ่มขึ้น อาจจะเกิดผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้ารายเก่า โดยทางสมาคมภัตตาคารไทยจะเป็นผู้ประสานงานกับผู้ต้องการเข้าร่วมโครงการ หลังจากนั้น จะนำไปต่อรองกับผู้ประกอบการค้าข้าว วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งผู้ค้าส่งเนื้อสัตว์ ผักต่างๆ หากมีผู้ร่วมโครงการเยอะและซื้อสินค้าจำนวนมากราคาจะถูกลง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนในเรื่องการใช้แก๊สราคาถูกอีกด้วย
ทั้งนี้ ทางสมาคมภัตตาคารไทยจะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ เพื่ออธิบายและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ว่าสามารถทำได้จริง และสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จำนวนมาก โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป
โดยเบื้องต้นจะเปิดโครงการ ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 100 ร้านก่อน เพื่อนำร่อง โดยเน้นตามสถานีบริการน้ำมัน PT ในกรุงเทพฯ ซึ่งมีประมาณ 200 แห่ง รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวแกงที่ต้องการร่วมโครงการ เนื่องจากไม่อยากให้มีพ่อค้าแม่ค้าเพิ่มขึ้น อาจจะเกิดผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้ารายเก่า โดยทางสมาคมภัตตาคารไทยจะเป็นผู้ประสานงานกับผู้ต้องการเข้าร่วมโครงการ หลังจากนั้น จะนำไปต่อรองกับผู้ประกอบการค้าข้าว วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งผู้ค้าส่งเนื้อสัตว์ ผักต่างๆ หากมีผู้ร่วมโครงการเยอะและซื้อสินค้าจำนวนมากราคาจะถูกลง รวมทั้งได้รับการสนับสนุนในเรื่องการใช้แก๊สราคาถูกอีกด้วย
ทั้งนี้ ทางสมาคมภัตตาคารไทยจะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ เพื่ออธิบายและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ว่าสามารถทำได้จริง และสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จำนวนมาก โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป