วันนี้ (30 มิ.ย.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการสาขาการขนส่ง (Transport and Mobility) โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม H.E.Mr.Theirry Mathou เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นายปัญญา ชูพาณิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ The Movement of the Enterprises of France (MEDEF) สภาธุรกิจไทย-ฝรั่งเศส (France-Thailand Business Forum) บริษัท Egis บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมการประชุม
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการสาขาการขนส่งในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือทางวิชาการในภาคการขนส่งที่สำคัญของ ทั้งประเทศไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ (Know-How) ทางเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญของภาคเอกชน ส่งเสริมการลงทุนของฝรั่งเศสในประเทศไทย โดยเฉพาะสาขาการขนส่งที่ยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านไปใช้พลังงานสะอาด (Energy Transition) และการพัฒนาเมืองสีเขียว (Green City)
ทั้งนี้ สอดคล้องตามแนวทางยุทธศาสตร์คมนาคมและขนส่ง 20 ปี ประกอบด้วย ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green and Safe) และขนส่งสำหรับคนทุกคน (Inclusive) โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาขยายความร่วมมือทางวิชาการทั้งในมิติเชิงลึก คือความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบขนส่ง และมิติเชิงกว้าง คือขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกันทั้งภาครัฐและเอกชนต่อไปในอนาคต เพื่อช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยให้มีความสะดวก ปลอดภัย ทั่วถึง ราคาเป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการสาขาการขนส่งในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือทางวิชาการในภาคการขนส่งที่สำคัญของ ทั้งประเทศไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ (Know-How) ทางเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญของภาคเอกชน ส่งเสริมการลงทุนของฝรั่งเศสในประเทศไทย โดยเฉพาะสาขาการขนส่งที่ยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านไปใช้พลังงานสะอาด (Energy Transition) และการพัฒนาเมืองสีเขียว (Green City)
ทั้งนี้ สอดคล้องตามแนวทางยุทธศาสตร์คมนาคมและขนส่ง 20 ปี ประกอบด้วย ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency) ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green and Safe) และขนส่งสำหรับคนทุกคน (Inclusive) โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาขยายความร่วมมือทางวิชาการทั้งในมิติเชิงลึก คือความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบขนส่ง และมิติเชิงกว้าง คือขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกันทั้งภาครัฐและเอกชนต่อไปในอนาคต เพื่อช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยให้มีความสะดวก ปลอดภัย ทั่วถึง ราคาเป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม