วันที่ 24 มิถุนายน 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ กฎ ก.ร. ว่าด้วยการให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ.2565 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (3) และมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2554 ก.ร. จึงออกกฎ ก.ร. ดังกล่าว และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ทั้งนี้ กฎ ก.ร. ดังกล่าวกำหนดว่า การให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณใด และดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ตามกฎ ก.ร. นี้ จะต้องเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ รวมถึงต้องเป็นตำแหน่งที่ขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ ต้องใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ทางวิชาการความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกระบวนงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทางวิชาการหรือหน้าที่ที่จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว และหาผู้อื่นปฏิบัติงานแทนได้ยาก ทั้งนี้ ตามบัญชีตำแหน่งที่ ก.ร. กำหนดให้เป็นตำแหน่งที่ได้รับราชการต่อไปท้ายกฎ ก.ร.นี้ ซึ่งระบุว่าเป็นตำแหน่งสายงานนิติการ
ส่วนกำหนดเวลาที่จะให้รับราชการต่อไปตามกฎ ก.ร. นี้ ให้กระทำได้ตามความจำเป็น โดยในครั้งแรกให้สั่งให้รับราชการต่อไปได้ไม่เกิน 4 ปี และถ้ายังมีเหตุผลและความจำเป็นจะให้รับราชการต่อไปอีกได้ครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่เมื่อรวมกันแล้วระยะเวลาทั้งหมดต้องไม่เกิน 10 ปี เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ให้สั่งให้ผู้นั้นพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แต่ถ้าความจำเป็นที่ให้ผู้นั้นรับราชการต่อไปหมดลงก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าว จะสั่งให้ผู้นั้นพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าวก็ได้ แต่ต้องแจ้งให้ผู้นั้นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
อ่านฉบับเต็ม ที่นี่
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (3) และมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2554 ก.ร. จึงออกกฎ ก.ร. ดังกล่าว และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ทั้งนี้ กฎ ก.ร. ดังกล่าวกำหนดว่า การให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณใด และดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ตามกฎ ก.ร. นี้ จะต้องเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ รวมถึงต้องเป็นตำแหน่งที่ขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ ต้องใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ทางวิชาการความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกระบวนงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทางวิชาการหรือหน้าที่ที่จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว และหาผู้อื่นปฏิบัติงานแทนได้ยาก ทั้งนี้ ตามบัญชีตำแหน่งที่ ก.ร. กำหนดให้เป็นตำแหน่งที่ได้รับราชการต่อไปท้ายกฎ ก.ร.นี้ ซึ่งระบุว่าเป็นตำแหน่งสายงานนิติการ
ส่วนกำหนดเวลาที่จะให้รับราชการต่อไปตามกฎ ก.ร. นี้ ให้กระทำได้ตามความจำเป็น โดยในครั้งแรกให้สั่งให้รับราชการต่อไปได้ไม่เกิน 4 ปี และถ้ายังมีเหตุผลและความจำเป็นจะให้รับราชการต่อไปอีกได้ครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่เมื่อรวมกันแล้วระยะเวลาทั้งหมดต้องไม่เกิน 10 ปี เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ให้สั่งให้ผู้นั้นพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แต่ถ้าความจำเป็นที่ให้ผู้นั้นรับราชการต่อไปหมดลงก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าว จะสั่งให้ผู้นั้นพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าวก็ได้ แต่ต้องแจ้งให้ผู้นั้นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
อ่านฉบับเต็ม ที่นี่