นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการนำผู้ต้องขังล้างท่อ ขุดลอกท่อระบายน้ำในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานครได้ประสานมายังกรมราชทัณฑ์ ขอรับการสนับสนุนนักโทษเด็ดขาดออกทำงานล้างท่อระบายน้ำในรูปแบบการจัดทำบริการสาธารณะเพื่อสังคม ในพื้นที่บริเวณตลาดห้วยขวาง โดยจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยสำนักการระบายน้ำ ได้แจ้งขอบข่ายการดำเนินงานแล้ว โดยแบ่งเป็นการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำภายใต้สำนักการระบายน้ำระยะทาง 249.60 กิโลเมตร และการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำของสำนักงานเขต 15 เขต คิดเป็นระยะทาง 280.76 กิโลเมตร คิดเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 530 กิโลเมตร โดยกรมราชทัณฑ์กำหนดให้เรือนจำ 12 แห่ง โดยใช้เกณฑ์การแบ่งงานโดยกำหนดหลักเกณฑ์เบื้องต้น คือ ระยะทางจากเรือนจำไปยังบริเวณที่ทำงานต้องใกล้ที่สุดและไม่ข้ามเขตการปฏิบัติงานระหว่างเรือนจำ จัดปริมาณงานตามสัดส่วนจำนวนนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการอนุมัติออกทำงานของแต่ละเรือนจำ
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานถึงความปลอดภัยในการควบคุมนักโทษเด็ดขาดเป็นลำดับแรก รวมถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง การรักษาระยะห่างกับคนในชุมชน โดยกลุ่มงานสาธารณะและงานนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ จะทำหน้าที่ตรวจตราและกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอีกขั้นหนึ่ง ในส่วนของมาตรการป้องกันโควิด-19 ทางเรือนจำจะตรวจ ATK ในการออกปฏิบัติงานครั้งแรก จากนั้นจะตรวจทุก 3-5 วัน และเมื่อกลับจากการทำงานจะแยกห้องขังไม่นำไปปะปนกับผู้ต้องขังอื่นๆ
นายสมศักดิ์ กล่าวขอบคุณนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่สนับสนุนโครงการสาธารณะประโยชน์แบบนี้ เพราะเป็นการช่วยสังคมและให้โอกาสกับผู้ต้องขังได้ทำงาน มีรายได้ก่อนที่จะพ้นโทษ ตนยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ความคิดนี้หวังที่จะแก้ปัญหาจากหน้าฝน โดยยึดประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก เพราะขณะนี้เข้าหน้าฝนแล้ว จึงอยากจะแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมมีบุคลากรที่เป็นผู้ต้องขังที่สามารถออกมาทำงานช่วยชาวบ้านได้ เรื่องนี้ผู้ต้องขังได้ประโยชน์ และสังคมก็ได้ประโยชน์เช่นกัน