xs
xsm
sm
md
lg

อดีตบิ๊ก ศรภ.เตือน รบ.-กต.รับมือม็อบอ่อนมาก ห่วงประชุมเอเปกซ้ำรอยพัทยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ม็อบการเมืองท่ีดินแดง

มนุษย์เราเกิดมาก็แตกต่างกันอยู่แล้ว
ทั้งฐานะ รูปร่างหน้าตา แม้กระทั้งคนรวยก็ยังแบ่งเป็นรวยน้อย รวยมาก
การดูแลของพ่อแม่ การได้โอกาสศึกษาก็ไม่เหมือนกัน ตอนเกิดมาร่างกายแข็งแรง หรือ อ่อนแอ ฯลฯ ไม่มีทางจะเท่าเทียมกันได้ตามที่ UN กำหนดไว้

สิ่งท่ีพอจะทำให้มนุษย์ เท่าเทียมกันได้ นั้น มีอย่างเดียว คือ “ สิทธิตามกฎหมาย“เท่านั้น

แต่ก็ต้องมี “หน้าที่ในการปฏิบัติตัวเอง ตามกฎหมาย“ ควบคู่มากับการใช้สิทธิ ด้วย นั้นคือการใช้สิทธิของตนเอง จะต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้อื่น และเมื่อไดใช้สิทธิของตัวเองไปรุกล้ำสิทธิของผู้อื่น ก็ถือว่า “เป็นการทำผิดกฎหมาย” ทันที

เราจึงเห็นการปราบปรามม็อบ ในประเทศตะวันตก เต็มไปด้วยความเด็ดขาด เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฏหมาย
ท่ีเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ อังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส ก็เพื่อรักษาสิทธิของอีกหลายร้อยท่ีจะต้องสัญจรบนถนน และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินได้ นอกจากนั้น ยังรวมไปถึง
การรักษาทรัพย์สินท่ีมาจาก”ภาษี” ของประชาชนอีกด้วย เช่น การเผารถตำรวจ ทำลายป้อมจราจร เป็นต้น

( ควรทราบว่า “เจ้าหน้าท่ีรัฐฯท่ีเบิก รถหลวงไปใช้ตามหน้าที่ทุกคน” จะต้องนำรถกลับมาให้อยู่ในสภาพเดิม ไม่เช่นนั้น จะต้องชดใช้เงิน และรับโทษทางวินัยอีกด้วย )

ส่วนการจัดการม็อบท่ีก่อเหตุรุนแรงในประเทศไทย หรือผู้ท่ีทำความผิดอื่นๆ เช่น ความผิดทางคอมพิวเตอร์ และ การปล่อยข่าวเท็จ ท่ีเกิดขึ้นในยุคของ พลเอกประยุทธ์นั้น มีข้อสังเกตุว่า

1.การปฎิบัติงาน ควบคุมม็อบ ต่ำกว่ามาตราฐานสากล อย่างมากมาย จนดูเสมือนว่า รัฐบาลเองจะละเว้นการกระทำหน้าที่ตาม ม.157 เสียด้วย ซึ่งเปรียบกับการจัดการม็อบ ในสมัยรัฐบาล
“ยิ่งลักษณ์”แล้ว ต่างกันอย่างฟ้ากับดิน

ยุค คุณยิ่งลักษณ์นั้น ขนาด “พระ” ตำรวจยังตีซะหนีกระเจิดกระเจิงเลย
สื่อ และ NGOs ต่างๆ ก็เงียบไปหมด

2.ส่วนผู้สนับสนุนม็อบนั้น จะต้องมีความผิดเสมือนตัวการ ตำรวจต้องเอาผิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือเจ้าหน้าท่ีรัฐ รวมถึงชาวต่างชาติ ไม่ใช่จับแต่เด็ก

3.การละเมิดสิทธิผู้อื่นนั้น ลองไปดูการทำงานในกรณีนี้ของประเทศอื่นๆ เอาเฉพาะในอาเซียนก็พอ เช่น กำพูชา
ลาว พม่า มาเลเซีย นั้นจะเข็มงวดกว่าไทยมาก โดยเฉพาะบรูไน และสิงค์โปร์ ใครเอาสีสาดในที่สาธารณะ มีโทษถูกโบยด้วย ส่วนความผิดต่อประมุข
ของประเทศนั้น หลายประเทศยังมี
กฎหมายในเรื่องความมั่นคง เพิ่มโทษขึ้นมาอีกด้วย

ปัจจุบันรัฐบาลไทย และกระทรวงต่างประเทศ “อ่อนมาก” แค่อยากเตือนว่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้ “ การประชุมสุดยอด
อาเชียน “ ท่ีกำลังใกล้จะมาถึงนี้ อาจจะซ้ำรอยเดิมที่”พัทยา”ก็ได้ ถ้าปล่อยกันไว้แบบนี้