ดร.เจนนิเฟอร์ แมคควิสตัน จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี เปิดเผยผลการวิเคราะห์เชื้อไวรัสฝีดาษลิงในสหรัฐฯ พบว่ามี 2 สายพันธุ์ ที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นการสนับสนุนข้อสันนิษฐานที่ว่ามีการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ มาระยะหนึ่งแล้วโดยที่ไม่มีการตรวจพบ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคระบาดในประเทศ และอาจพบการแพร่ระบาดในระดับชุมชนอยู่ในขณะนี้
ทางด้าน ดร.แองเจลา ราสมุสเซน นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยซัสแคตเชวัน ในแคนาดา เปิดเผยว่า ผลการวิจัยชี้ว่าการควบคุมเชื้อไวรัสทำได้ยากขึ้น เนื่องจากการที่ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แน่ชัด และแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้นอกเขตแอฟริกา แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ผู้ติดเชื้อจะเสียชีวิตหากเป็นผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ
โรคฝีดาษลิงเป็นโรคติดเชื้อที่แพร่ระบาดได้ยากในมนุษย์ คือต้องเป็นการสัมผัสใกล้ชิดเท่านั้น และเป็นโรคเฉพาะถิ่นในบางพื้นที่ของแอฟริกา ซึ่งจะติดเชื้อจากการที่ถูกสัตว์ขนาดเล็กกัด อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤษภาคม ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มตรวจพบผู้ติดเชื้อ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในหลายประเทศเพิ่มการเฝ้าระวัง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 มิ.ย.) หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐฯ ตรวจพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายใหม่อีก 21 คนใน 11 รัฐ โดยผู้ติดเชื้อมีอาการบวมของต่อมน้ำเหลือง ตามด้วยผื่นที่ผิวหนัง ซีดีซีจึงออกคำแนะนำให้ป้องกันการติดเชื้อด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย ตลอดจนสัตว์ขนาดเล็ก