นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ฝีดาษลิงในประเทศไทย โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าอาจจะพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีการเดินขบวนพาเหรดงานไพรด์พาเหรด (Pride Parade) ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าร่วมงาน ทำให้มีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยเดินทางเข้าประเทศอย่างแน่นอน ในขณะนี้จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังเที่ยวบินตรงจากประเทศที่พบการติดเชื้อในประเทศแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ประเทศ เป็น 5 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกา อังกฤษ โปรตุเกส สเปน และแคนาดา และจับตาเยอรมนีเพิ่มเติม โดยมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 1 หมื่นคน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้จัดงานยังไม่ได้ประสานข้อมูลมา แต่กระทรวงสาธารณสุขวางแผนระบบเฝ้าระวังสถานพยาบาลในกรุงเทพมหานคร พร้อมประสานเครือข่ายผู้ดูแลงานโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เข้าไปรักษาในคลินิกเฉพาะทางด้วย
นายแพทย์จักรรัฐ ย้ำว่า โรคฝีดาษลิงไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดโดยตรง ดังนั้น มาตรการ Universal Prevention หรือ UP ด้วยการเว้นระยะห่างกันจะดีที่สุด
สำหรับผู้เข้าร่วมงานไพรด์พาเหรด หากมั่นใจว่าไม่ได้ใกล้ชิดผู้ที่มีอาการป่วยออกผื่นก็ไม่น่ากังวล แต่หากใกล้ชิดกันโดยไม่ได้สังเกต ก็เป็นความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หากพบผู้ที่มีอาการผื่น ขอให้พามาตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่โรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ ระยะฟักตัวของโรคคือ 5-21 วัน ดังนั้นหากจะเฝ้าระวังตัวเองก็ต้องอย่างน้อย 3 สัปดาห์หลังจากความเสี่ยงนั้นๆ อาการเบื้องต้น 10 วันแรกจะเป็นไข้ หลังจากนั้นจะเป็นผื่นขึ้น ขอให้รับการตรวจที่โรงพยาบาล
ส่วนแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจำเป็นต้องป้องกันตัวด้วยชุด PPE หรือไม่นั้น นายแพทย์จักรรัฐ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะไม่ใช่โรคติดต่อจากระบบทางเดินหายใจ แต่ติดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งแบบใกล้ชิด เช่น การกอด การจูบ ฉะนั้นคนทั่วไปที่เดินผ่านคนมีอาการผื่น ก็ไม่มีความน่ากังวล เพียงแต่เดินห่างๆ ก็พอ เพราะระยะแพร่เชื้อส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่ออกผื่นแล้ว