นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสุขภาพของประชาชนในระยะนี้ อาจเจ็บป่วยจากโรคเลปโตสไปโรสิส หรือ โรคไข้ฉี่หนู ที่มีสาเหตุมาจากสภาพภูมิอากาศที่มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับสถานการณ์ของโรคเลปโตสไปโรสิส หรือโรคไข้ฉี่หนู ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 พฤษภาคม 2565 พบผู้ป่วย 356 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 45-54 ปี (18.82%) รองลงมา คือ 55-64 ปี (16.57%) และอายุ 35-44 ปี (16.01%) ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรและอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ระนอง แม่ฮ่องสอน พังงา พัทลุง และสงขลา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมควบคุมโรค คาดว่าในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคเลปโตสไปโรสิส หรือโรคไข้ฉี่หนู เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้สภาพพื้นดินเปียกชื้น หรือน้ำท่วมขังบางพื้นที่ ตามท้องถนนหรือพื้นที่ที่ทำการเกษตรต่างๆ เนื่องจากเชื้อก่อโรค
กรมควบคุมโรคได้แนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู โดยหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ พร้อมทั้งอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาดไม่มีหนูชุกชุม และรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาดก่อนนำมารับประทาน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังโรคเลปโตสไปโรสิสหรือโรคไข้ฉี่หนูเป็นพิเศษ สำหรับอาการของโรคไข้ฉี่หนูจะเริ่มจากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง จะปวดมากโดยเฉพาะที่น่องและโคนขา มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น หากประชาชนเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน มีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว