วันนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานด้านสาธารณสุข และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพบปะผู้ประกอบการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติการเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ตามมติของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. โดยสถานประกอบการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะเปิดให้บริการได้ จะต้องยื่นคำร้องขอเปิดบริการผ่านศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ เทศบาลในพื้นที่ที่สถานประกอบการนั้นตั้งอยู่ และผ่านการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น ถึงจะเปิดให้บริการได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำถึงเวลาการเปิด-ปิดบริการ ว่า สามารถเปิดให้บริการนั่งดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. เท่านั้น พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กิจการกลับมาฟื้นตัวและสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ กิจการ สถานบริการ สามารถเปิดดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกิดการแพร่ระบาดของโรคกลับมาอีก โดยขอเน้นย้ำไม่ให้มีการใช้สิ่งของร่วมกันในร้าน ทั้งแก้ว จาน ช้อน เนื่องจากเป็นจุดเสี่ยงของการสัมผัสร่วมกัน และเกิดการแพร่กระจายของเชื้อได้ง่าย พร้อมขอให้งดกิจกรรมการส่งเสริมการขายที่ทำให้คนในร้านรวมตัวกัน และงดการบริการสัมผัสใกล้ชิด โดยผู้ให้บริการสัมผัสใกล้ชิด คลุกคลีไม่เกิน 1 เมตร จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการอนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัย แต่เป็นการถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้งเท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย
สำหรับมาตรการที่สำคัญของการเปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ที่ผ่านหลักเกณฑ์และได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่แล้วนั้น ด้านผู้ให้บริการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) มีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของพนักงานทุกวัน ด้วยระบบ Thai Save Thai (TST) ตรวจ ATK พนักงานทุกคน ทุก 7 วัน และเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention (UP) ส่วนผู้รับบริการ จะต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention (UP) และขอแนะนำให้ประชากรกลุ่มเสี่ยง 608 งดหรือเลี่ยงการเข้าไปใช้บริการ