xs
xsm
sm
md
lg

"ทนายเดชา"หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด"ส.ส.เต้"ขู่ส่งคนกระทืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ภูมิระพี สังข์ทอง ผู้กำกับ กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม กรณีถูกนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ข่มขู่ทำร้ายร่างกายหากไม่หยุดวิจารณ์คดีการเสียชีวิตของแตงโม

นายเดชา เปิดเผยว่า มาแจ้งความเอาผิดนายมงคลกิตติ์ ในความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ มาตรา 309 และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นายมงคลกิตติ์ ได้โทรศัพท์ข่มขู่ตนในทำนองว่าจะส่งคนมากระทืบ และจะนำไปปล่อยที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นวิธีการนอกกฎหมาย โดยตนได้นำแผ่นซีดีบันทึกเสียง เอกสารคำข่มขู่มาให้พนักงานสอบสวน และคลิปที่ข่มขู่ผู้สื่อข่าวรวมถึงบุคคลอื่นๆ มาเป็นหลักฐานในการแจ้งความ พร้อมตั้งคำถามว่า บุคคลเช่นนี้สมควรจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อหรือไม่ เพราะมีลักษณะเป็นมาเฟีย หากใครถูกนายมงคลกิตติ์ ข่มขู่ ก็ขอให้ติดต่อมา จะช่วยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะไปร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม และจริยธรรมนักการเมือง เนื่องจากนายมงคลกิตติ์ เป็น ส.ส. แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่ประชาชน ทั้งที่การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีความต่างๆ นั้น สามารถทำได้ เมื่อครั้งที่ตนยังเป็นทนายความในคดีดังกล่าว นายมงคลกิตติ์ เองก็ยังวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย แม้แต่สุนัขที่บ้าน 2 ตัวก็ยังรู้สึกหวาดกลัว เพราะการข่มขู่ของนายมงคลกิตติ์ มีลักษณะจริงจัง ขึงขัง ไม่ล้อเล่น แสดงให้เห็นว่านักการเมืองในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความป่าเถื่อน และหลงระเริงในอำนาจหรือไม่

นายเดชา กล่าวอีกว่า หากนายมงคลกิตติ์ ไม่พอใจที่ถูกกล่าวหา ก็ควรใช้ข้อกฎหมาย ไม่ควรใช้วิธีการเช่นนี้ เพราะเป็นถึงนักการเมือง ไม่ใช่โจร อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าหลังจากนี้ นายมงคลกิตติ์ คงไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อไป ส่วนเรื่องที่อ้างว่ามีความสนิทสนมกับตน จึงพูดจาหยอกล้อเช่นนี้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

เบื้องต้น พ.ต.ต.สายยุทธ์ ยศคำ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ทำการสอบปากคำผู้ร้อง ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป