ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวสารในสังคมออนไลน์เรื่อง ผู้ที่เกิดหลังปี 2523 เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคฝีดาษลิง มากกว่าประชากรที่เกิดก่อนนั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า ยังไม่มียารักษาฝีดาษลิงโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่หายเองได้ อาการรุนแรงมักพบในเด็ก โดยอัตราการตายในแอฟริกาพบร้อยละ 10 วัคซีนไข้ทรพิษช่วยป้องกันได้ ร้อยละ 85 ซึ่งคนเกิดหลังปี 2523 ไม่ได้ปลูกฝีอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคฝีดาษลิงได้
สำหรับโรคดังกล่าว ไม่ใช่โรคใหม่ เคยระบาดมาแล้วมากกว่า 20 ปี และเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae อยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เช่นเดียวกับไวรัสฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ (variola virus) ไวรัสที่นำมาผลิตวัคซีนป้องกันฝีดาษในคน (vaccinia virus) และฝีดาษวัว (cowpox virus)
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า ยังไม่มียารักษาฝีดาษลิงโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่หายเองได้ อาการรุนแรงมักพบในเด็ก โดยอัตราการตายในแอฟริกาพบร้อยละ 10 วัคซีนไข้ทรพิษช่วยป้องกันได้ ร้อยละ 85 ซึ่งคนเกิดหลังปี 2523 ไม่ได้ปลูกฝีอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคฝีดาษลิงได้
สำหรับโรคดังกล่าว ไม่ใช่โรคใหม่ เคยระบาดมาแล้วมากกว่า 20 ปี และเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae อยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เช่นเดียวกับไวรัสฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ (variola virus) ไวรัสที่นำมาผลิตวัคซีนป้องกันฝีดาษในคน (vaccinia virus) และฝีดาษวัว (cowpox virus)