พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภาพรวมการจราจรเปิดเทอมวันแรก ในกรุงเทพมหานคร ปริมาณรถวันนี้ถือว่ากลับมาเป็นปกติเกือบเท่าก่อนสถานการณ์โควิด-19 โดยการจราจรด้านทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ในถนนแจ้งวัฒนะ งามวงศ์วาน รามอินทรา รัชดาภิเษก พหลโยธิน รถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ
ส่วนเส้นทางด้านทิศตะวันออก ถนนประดิษมนูธรรม มีปัญหาช่วงซอยเข้าโรงเรียนบดินทร์เดชาฯ และถนนลาดพร้าว ชะลอตัวบ้าง จนส่งผลกระทบถนนลาดพร้าวขาออก
ด้านเส้นทางฝั่งทิศตะวันตก มีปัญหาช่วงข้ามสะพานสาทร เป็นหลัก เพราะมีโรงเรียนขนาดใหญ่ บริเวณย่านสาทร-สีลม การจราจรจึงกระทบถึงถนนกรุงธนบุรี ต่อเนื่องถนนราชพฤกษ์ ส่งผลท้ายแถวถึงต่างระดับสวนเลียบ โดยย่านที่มีโรงเรียนหนาแน่นทั้ง 3 โซน ได้แก่ บริเวณสามเสน-ราชวิถี พบว่าเคลื่อนตัวได้ดี ไม่กระทบถนนสายหลัก ส่วนบริเวณอโศก-สุขุมวิท-เพชรบุรี ไม่กระทบสายหลัก
ส่วนที่มีปัญหามากที่สุด คือ บริเวณสาทร-สีลม รถติดสะสมต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่จะคลี่คลายได้ภายในเวลา 07.30 น. ภาพรวมไม่เกินเวลา 08.30 น. พร้อมคาดการณ์ว่าผู้ปกครองและนักเรียนจะปรับตัวบริหารเวลา และวางแผนการเดินทางจนเป็นปกติได้ภายใน 1 สัปดาห์
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวด้วยว่า การจัดการจราจรช่วงเช้า ตำรวจจะเน้นจุดรับ-ส่งนักเรียนให้ใช้เวลาน้อยที่สุด จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ช่วงเย็นผู้ปกครองจะต้องไปรอรับนักเรียน จะมีการจอดรถกีดขวางการจราจร โดยช่วงใกล้เวลา 16.00-16.30 น. ที่จะเป็นช่วงเลิกงาน อาจส่งผลให้เกิดปัญหามากขึ้น จึงให้ตำรวจจราจรทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์และประสานสถานศึกษาให้มีช่องทางนัดแนะระหว่างผู้ปกครองและนักเรียน ให้สามารถมารับได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เวลามาก
ส่วนเส้นทางด้านทิศตะวันออก ถนนประดิษมนูธรรม มีปัญหาช่วงซอยเข้าโรงเรียนบดินทร์เดชาฯ และถนนลาดพร้าว ชะลอตัวบ้าง จนส่งผลกระทบถนนลาดพร้าวขาออก
ด้านเส้นทางฝั่งทิศตะวันตก มีปัญหาช่วงข้ามสะพานสาทร เป็นหลัก เพราะมีโรงเรียนขนาดใหญ่ บริเวณย่านสาทร-สีลม การจราจรจึงกระทบถึงถนนกรุงธนบุรี ต่อเนื่องถนนราชพฤกษ์ ส่งผลท้ายแถวถึงต่างระดับสวนเลียบ โดยย่านที่มีโรงเรียนหนาแน่นทั้ง 3 โซน ได้แก่ บริเวณสามเสน-ราชวิถี พบว่าเคลื่อนตัวได้ดี ไม่กระทบถนนสายหลัก ส่วนบริเวณอโศก-สุขุมวิท-เพชรบุรี ไม่กระทบสายหลัก
ส่วนที่มีปัญหามากที่สุด คือ บริเวณสาทร-สีลม รถติดสะสมต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่จะคลี่คลายได้ภายในเวลา 07.30 น. ภาพรวมไม่เกินเวลา 08.30 น. พร้อมคาดการณ์ว่าผู้ปกครองและนักเรียนจะปรับตัวบริหารเวลา และวางแผนการเดินทางจนเป็นปกติได้ภายใน 1 สัปดาห์
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวด้วยว่า การจัดการจราจรช่วงเช้า ตำรวจจะเน้นจุดรับ-ส่งนักเรียนให้ใช้เวลาน้อยที่สุด จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ช่วงเย็นผู้ปกครองจะต้องไปรอรับนักเรียน จะมีการจอดรถกีดขวางการจราจร โดยช่วงใกล้เวลา 16.00-16.30 น. ที่จะเป็นช่วงเลิกงาน อาจส่งผลให้เกิดปัญหามากขึ้น จึงให้ตำรวจจราจรทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์และประสานสถานศึกษาให้มีช่องทางนัดแนะระหว่างผู้ปกครองและนักเรียน ให้สามารถมารับได้ทันที โดยไม่ต้องใช้เวลามาก