นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์จีดีพีทั้งปี 2565 เหลือขยายตัวร้อยละ 3 จากเดิมคาดการณ์ร้อยละ 4.5 สอดคล้องกับเศรษฐกิจต่างประเทศที่ปรับลดลง ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน ขณะที่คาดการส่งออกขยายตัวร้อยละ 7.3 อัตราเงินเฟ้อร้อยละ 4.2-5.2 ดุลบัญชีเดินสะดัดขาดดุลร้อยละ 1.5 ทุนสำรองระหว่างประเทศ 2.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาระหนี้สาธารณะร้อยละ 66 ต่อ GDP ยังต่ำกว่าเพดานร้อยละ 70
สำหรับปัจจัยหลักในการปรับลดจีดีพีปี 2565 คือ เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวจากปัญหาราคาพลังงานสูง อัตราเงินเฟ้อสูง และในช่วงถัดไปไทยต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น หลังจากหลายประเทศเริ่มเป็นห่วงเศรษฐกิจของตนเอง จึงงดส่งออกวัตถุดิบหลัก เช่น อินโดนิเซีย เริ่มงดส่งออกน้ำมันปาล์ม จีนเริ่มสำรองอาหารช่วง 1 ปีครึ่ง รัสเซียถูกแทรกแซงจากตลาดโลก ซึ่งเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบปุ๋ย ข้าวสาลี หลายประเทศต้องอยู่ได้ด้วยตนเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงมาก ขณะที่ไทยเป็นประเทศผลิตอาหาร จึงต้องบริหารจัดการเรื่องวัตถุดิบหลัก การใช้ชิปผลิตอุตสหากรรมยายนต์การบริหารงานช่วงต่อไป จึงต้องหาวัตถุดิบทดแทนมารองรับในสิ่งที่นำเข้าไม่ได้