xs
xsm
sm
md
lg

“พนิต”ยกข้อดี-เสีย ผู้ว่าฯ กทม.อิสระ ชี้ทำงานได้ ไม่มีถูกครอบงำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์ระบุว่า เอาความจริงมาพูด เลิกตัดโอกาสคนกรุงฯ หยุดทำลายล้างแบบเก่า

ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคการเมือง ร่วมทำงานกับ ส.ก.พรรคเดียวกัน และต่างพรรค ขอโอกาสถ่ายทอดประสบการณ์จริง หลังช่วงที่ผ่านมามีผู้แสดงความเห็นถึง ผู้ว่าฯ กทม. อิสระ และไม่มี ส.ก.พรรคสนับสนุน กับ ส.ก.สังกัดพรรคการเมือง แต่ไม่ส่งผู้ว่าฯกทม. จะไม่สามารถทำงานรับใช้ชาวกรุงเทพฯได้นั้นเป็นความจริงหรือไม่

สำหรับโพสต์แรกนี้จะขอนำเสนอประสบการณ์จริง ถึงข้อดีและข้อเสียของ ผู้ว่าฯกทม.ที่มี ส.ก.พรรคสนับสนุน กับผู้ว่าฯ กทม.อิสระ โดยไม่มี ส.ก.พ่วงมาด้วย แบบไหนจะเป็นประโยชน์ เพื่อให้ชาวกรุงเทพฯชั่งน้ำหนักอย่างรอบด้าน และตัดสินใจในวันที่ 22 พ.ค.

สำหรับข้อดีคือ ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.พรรคเดียวกันนั้น จะมีความเข้าใจในแนวทางและนโยบายการทำงานของพรรค สามารถใช้กลไกพรรคในการประสานงานได้ โดยมีพรรคเป็นศูนย์กลางที่ต้องรับทั้งความผิดและรับชอบด้วย จะชิ่งและหนีปัญหาเอาตัวรอดไม่ได้

ในขณะที่ข้อเสีย ผู้ว่าฯ กทม. อาจไม่สามารถขอความร่วมมืออะไร ส.ก.ได้ทุกเรื่อง ส่วนหนึ่งเพราะ ส.ก.ถือว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ว่าฯกทม. อีกทั้ง ส.ก.บางคนยังเข้าใจเอาเองว่าเป็นส่วนสำคัญทำให้ผู้สมัครชนะการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งแท้จริงแล้วอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะชัยชนะส่วนใหญ่มาจาก ตัวบุคคล และทีมงานผู้สมัครที่มีคุณภาพ นโยบาย และความน่าเชื่อถือของพรรคการเมือง

และมีอยู่หลายครั้ง หลายเหตุการณ์ ที่ผู้ว่าฯ กทม.กับ ส.ก. เห็นไม่ตรงกัน นั่นเพราะมิติของผู้ว่าฯ กทม. จะมองในภาพรวมทั้ง 50 เขต และ ประโยชน์ของชาวกรุงเทพฯ ทั้งหมด แต่ ส.ก.จะมองเฉพาะเขตตนเองเท่านั้น อาจทำให้การทำงานแก้ไขปัญหาบางเรื่องติดขัด

ข้อสำคัญ ผู้ว่าฯ กทม.กับ ส.ก.ที่สังกัดพรรคการเมือง ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันต่างๆ รวมทั้งต้องเดินตามแนวทางพรรค และผู้บริหารพรรค หรือแม้กระทั้งบางพรรค มีนายทุน และเจ้าของพรรค หากจะเดินนอกกรอบ จึงยากจะเป็นไปได้

ในขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. ที่ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคการเมือง หรือที่เราเรียกกันว่า ผู้ว่าฯ กทม.อิสระ ซึ่งช่วงนี้มีหลายคนออกมาพูดกันว่า การมาตัวเปล่าเล่าเปลือย ไม่มีพรรค ไม่มี ส.ก. จะไม่สามารถทำงานได้

ผมไม่แน่ใจว่า การออกมาพูดถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่ลงในนามอิสระในลักษณะแบบนี้ เป็นกลยุทธ์การหาเสียงหรือไม่ เพราะคล้ายกับวิธีที่นิยมใช้กันในอดีต เพื่อดิสเครดิตอีกฝ่าย หรือเป็นเพราะคนพูดไม่เข้าใจการทำงานของ กทม.อย่างถ่องแท้ ไม่เคยมีประสบการณ์บริหารงาน กทม. หรือแม้แต่บางคนเป็นนักการเมืองเก่า เคยลงสมัคร แต่ไม่เคยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จึงไม่มีประสบการณ์จริงจึงกล่าวออกไปแบบนั้น

มันไม่จริงเสมอไปที่ว่า ผู้ว่าฯ กทม.อิสระ และไม่มี ส.ก.พ่วงมาด้วย จะทำงานไม่ได้ เพราะในอดีตผู้ว่าฯ กทม.หลายคนก็ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่สามารถปฏิบัติภารกิจจนลุล่วง และเข้าไปทำงานกับส.ก.พรรคอื่นๆ ได้ เพราะเขามีความสามารถ

การไม่มีพรรคก็ถือเป็นข้อดี เพราะทำให้ผู้ว่าฯ กทม.สามารถทำงานได้อย่างอิสระ เพราะไม่ต้องอยู่ภายใต้กลไกของพรรค ปราศจากการครอบงำจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม.กับ ส.ก.ต่างพรรค จะช่วยให้การทำงานโปร่งใส เพราะมีกระบวนการตรวจสอบกันและกันที่เข้มข้นขึ้น ไม่ต้องกังวลหรือติดค้างอะไรกัน

การทำงานของ กทม. จะไม่เหมือนการบริหารงานในกระทรวง หรือการทำงานในรัฐวิสาหกิจ จะเอาประสบการณ์แบบนี้ มาเหมารวมไม่ได้ เพราะ กทม.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิเศษ มีสภาฯกทม.คอยถ่วงดุล

นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการและลูกจ้างของ กทม.เกือบแสนคน ตั้งแต่ระดับล่างถึงปลัด กทม. ที่มีคนทุกช่วงวัย ซึ่งผู้นำจะต้องมีความสามารถ ใช้ทั้งพระเดชพระคุณ เพื่อให้การทำงานออกมาราบรื่น

งาน กทม.ไม่ได้มีแค่สั่งจากบนลงล่าง ไม่ใช่งานที่จะใช้อำนาจไปจัดการ แต่ต้องอาศัยการขอความร่วมมือซึ่งกันและกัน ของทั้งองคาพยพ

ดังนั้นหากปรารถนาที่จะไปบริหารงานของ กทม. ก่อนอื่นต้องทำการบ้าน ศึกษาอัตลักษณ์ กทม.ให้ตกผนึกกว่านี้ ที่สำคัญ เลิกใช้วิธีดิสเครดิต หรือเอามัน ทำลายล้างกันทางการเมืองเพื่อตัดโอกาสคนกรุงเทพฯ ที่จะได้สิ่งที่ดีที่สุด