นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนกรณีที่ญาติและสื่อมีการเผยแพร่ภาพข้อมูลประวัติการรักษาหลวงปู่แสง ผ่านทางโลกออนไลน์ อาจเข้าข่ายเป็นความผิด โดยระบุข้อความว่า
"การนำข้อมูลของผู้ป่วยไปเปิดเผยไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วยทั้งสิ้น และยังเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย 2 ฉบับ ตาม พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ 2550 และประมวลกฎหมายอาญา
-พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ 2550
มาตรา 7 ระบุว่า ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยและอาจทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากบุคคลนั้นโดยตรง และไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ เพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพของบุคคลไม่ได้
มีโทษตามมาตรา 49 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 7 หรือมาตรา 8 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-เปิดเผยข้อมูลการรักษาของตนต่อบุคคลหรือสาธารณชน
–พ.ร.บ.สุขภาพจิต 2551
มาตรา 16 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วยในประการที่น่าจะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ป่วย เว้นแต่ในกรณีที่จะเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยหรือผู้อื่น หรือเพื่อความปลอดภัยสาธารณชน
-ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 323 ระบุว่า ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้อื่นโดยเหตุที่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ โดยเหตุที่ประกอบอาชีพเป็นแพทย์ เภสัชกร คนจำหน่ายยา นางผดุงครรภ์ ผู้พยาบาล นักบวช หมอความ ทนายความ หรือผู้สอบบัญชีหรือโดยเหตุที่เป็นผู้ช่วยในการประกอบอาชีพนั้นแล้วเปิดเผยความลับนั้นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม 2549
ข้อ 27 ที่ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้วซึ่งตนทราบมา เนื่องจากการประกอบวิชาชีพ เว้นแต่ได้รับความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเมื่อต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามหน้าที่
ดังนั้น นายแพทย์ผู้รักษา สื่อมวลชน หรือลูกศิษย์หลวงปู่แสงที่นำเอาเอกสารหรือผลการรักษามาเปิดเผยต่อสาธารณะอาจมีโทษทางอาญาข้างต้นได้ฉะนั้น… อย่าหาทำ!!!"
